parallax background
 

วันที่แม่พาเรากลับบ้าน

ผู้เขียน: เวสารัช โทณผลิน หมวด: อาสามีเรื่องเล่า


 

ลองจินตนาการว่ามีใครสักคนเอื้อมมาจับมือของเราแน่นแล้วจูงเราพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ถ้าเรามองว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า มองว่าเขาจะพาเราไปยังสถานที่แปลกถิ่น เราคงต่อต้านขัดขืนด้วยความหวาดหวั่นไม่วางใจ

แต่ถ้าเรามองเห็นว่าคนที่กำลังจับมือจูงเราไปคือ 'แม่' ผู้ให้กำเนิดที่รักเราอย่างสุดหัวใจ ผู้หญิงที่เราวางใจ รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ผู้หญิงที่พร้อมจะเข้าใจและยอมรับเราอย่างไร้เงื่อนไขเสมอ เราก็คงพร้อมจะเดินตามเธอไปด้วยความรู้สึกปล่อยวางและตระหนักรู้อยู่ลึกๆ ว่าปลายทางที่แม่จะพาเราไปก็คือ...บ้าน

การเดินกลับบ้านโดยการนำทางจากมารดานี้ คือความปรารถนาข้อที่สามในการเดินภาวนารอบเกาะสมุยเป็นครั้งที่สาม ของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ที่อาจารย์ยอมรับว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่สุด นอกเหนือจากความตั้งใจสองข้อแรก คือ เดินเพื่อเคารพบรรพชนกับธรรมชาติรอบเกาะ และเดินเพื่อพิจารณาธรรมชาติทั้งภายนอกและภายในจิตใจของตัวเอง

ที่เป็นเรื่องส่วนตัวเพราะอาจารย์ประมวลเข้าใจดีว่า คงไม่ใช่ทุกคนที่มาเดินด้วยกันจะยินยอมพร้อมใจกลับบ้าน หรือที่อาจารย์ใช้คำว่า 'กลับคืนสู่ธรรมชาติอันสงบสุข' เช่นเดียวกับอาจารย์

"พูดถึงการกลับคืนสู่ธรรมชาติ เราต้องกลับคืนไปด้วยความเคารพ" อาจารย์บอก "คือมีความน้อมรับที่จะกลับไปด้วยความเต็มอกเต็มใจ ไม่ใช่ดิ้นรนขัดขืน จนกระทั่งถูกลากไปอย่างทุลักทุเล"

"นึกถึงภาพเวลามีใครสักคนลากเราไป แล้วเราขัดขืนไม่ยอมไป แต่เขามีพลังมาก สุดท้ายเขาก็ลากเราไปจนได้ เราต้องเจ็บปวดขนาดไหนที่ถูกลากไป ผมบอกเสมอว่า ธรรมชาติก็ประดุจดังมารดาผู้อาทร เมื่อถึงวันหนึ่ง เขาจะพาเราไป คำถามคือเราจะดื้อดึงขัดขืนให้เกิดความรู้สึกทุลักทุเล หรือเราจะจับมือธรรมชาติแล้วเดินตามไปอย่างมีความสุข"

"ก็เหมือนแม่กับลูก เวลาแม่จะจูงเราไปที่ไหน ถ้าเราขัดขืน แม่จะดึง เราก็จะดึงรั้งไว้ เหมือนเวลาเด็กที่แม่พาไปเที่ยวห้าง พอเด็กอยากได้อะไร เขาจะหยุดเลย ไม่ยอมไป แม่จะดึงยังไงเขาก็ไม่ยอม สุดท้ายแม่มีพลังมากกว่าก็จะดึงไปจนได้ แต่ผมเข้าใจว่าทันทีที่เรากับแม่มีใจตรงกัน เราจะเดินจับมือแม่ไป แล้วเราก็จะมีความรู้สึกงดงามที่ได้กลับคืนสู่ธรรมชาตินี้"

อาจารย์สบตาพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ในวงสนทนา ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า อาจารย์เข้าใจดีว่าอาการหวาดกลัวไม่ยินยอมสูญเสียชีวิตเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเราต่างก็ถูกปลูกฝังสั่งสอนให้หวงแหนชีวิตที่สร้างมานี้ด้วยกันทั้งนั้น

"ผมรู้สึกได้ถึงความหมายของมณฑลที่ชาวทิเบตสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธี ไม่ว่าจะสร้างอย่างวิจิตรอลังการขนาดไหน วันสุดท้ายก็ต้องทำลายทิ้ง ผมคิดว่ามณฑลที่แท้จริงอยู่ในใจเรา เราสร้างตัวตนขึ้นมาให้มีสีสัน ให้มีเรื่องราว ให้มีความหมาย มณฑลที่เราสร้างอยู่นี้ก็ไม่ต่างอะไรจากมณฑลที่ใช้ประกอบพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีชีวิต มีความหมาย มีพลัง แต่ชาวทิเบตต่างก็มีความสุขเป็นล้นพ้นที่จะทำลายมันทิ้งในวันสุดท้าย”

แม้อาจารย์ประมวลจะไม่ได้พูดสรุปในค่ำคืนนั้น แต่ประสบการณ์ได้นั่งฟังอาจารย์มาหลายครั้งหลายครา พวกเราต่างก็สัมผัสได้ว่า แท้จริงแล้วความงดงามและคุณค่าของชีวิตอยู่ที่มันสามารถสูญสลายตายจากไปได้นี่เอง

เป็นความงามของการเดินจับมือมารดาผู้อาทรกลับคืนไปยังบางแห่งที่เราจากมานาน จนหลงลืมไปว่าเรากับธรรมชาติล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ

[seed_social]
5 ธันวาคม, 2560

ความรักที่ไม่เคยหายไปไหน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในค่ำคืนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นเบอร์ของน้องหนุ่ม (นามสมมติ) ย้อนกลับไปประมาณ ๒-๓ ปี น้องหนุ่มเคยนอนรอความตายจากโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
19 เมษายน, 2561

สมองตายในทางพุทธถือว่าตายไหม

ในกรณีที่คนๆ หนึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตายอย่างแน่นอนแล้ว ญาติได้ยินยอมให้ผ่าตัดเอาอวัยวะบางอย่างที่ใช้งานได้ไปบริจาคให้ผู้ที่ต้องการโดยที่เจ้าตัวไม่รับรู้แล้ว แพทย์ผู้ผ่าตัดเอาอวัยวะออกไปจะบาปไหมคะ
18 เมษายน, 2561

Source code เวียนว่ายตายเกิดใน ๘ นาที

โควเตอร์ สตีเวนส์ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว สภาพแวดล้อมที่ปรากฏ ผู้คนตรงหน้าล้วนแล้วแต่แปลกไป โควเตอร์รู้สึกเหมือนถูกจับโยนลงไปในวงล้อมที่ตัวเขาแทบไม่รู้อะไรเลย จากนั้นสำนึกที่เกิดขึ้นทำให้พบว่าเขาอยู่ในร่างของชายแปลกหน้า