
"อาสาสมัครวัยเยาว์ ใส่ใจผู้สูงอายุ" เป็นโครงการนำจิตอาสานักเรียนประถมศึกษา ประมาณ 20 คนไปดูแลและเยี่ยมเยือนผู้สูงอายุในชุมชน 3 หมู่บ้าน มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 โดยมีคุณอาคม กุลสุรินทร์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาผา เป็นผู้นำโครงการ จุดเริ่มต้นเกิดจากการสังเกตเห็นนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการคุณธรรมที่สำนักสงฆ์ใกล้โรงเรียน แม้จะได้รับหลักธรรมมา แต่ไม่มีเครื่องบ่งชี้ที่เป็นการกระทำหรือรูปธรรมชัดเจน จึงคิดและพูดคุยกับนักเรียนถึงการทำกิจกรรมภายนอก คือการเยี่ยมผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับคุณลักษณะ 8 ประการในงานคุณธรรมของโรงเรียนตามที่หลักสูตรการศึกษากำหนด ประกอบกับคุณลุงเสถียร อดีตนักการภารโรง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการศึกษาของโรงเรียน ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลของตำบล ทำให้มีข้อมูลเรื่องคนในชุมชนส่วนหนึ่งจาก รพ.สต. เช่น คนตาบอด คนเจ็บป่วย คนสูงอายุที่ลูกหลานไปทำงานต่างถิ่น เป็นต้น
แรงบันดาลใจในการพานักเรียนรวมกิจกรรมเยี่ยมผู้สูงอายุในชุมชนของคุณอาคม มาจากปัจจัย 3 ประการ หนึ่ง ช่วงที่คุณพ่อป่วย คุณอาคมไม่มีโอกาสได้ดูแล เพราะต้องทำงาน จึงเป็นแรงผลักให้ตัดสินใจมาดูแลผู้สูงอายุในชุมชน สอง การมีลุงเสถียรเป็นต้นแบบในการทำงาน แม้จะมีอายุ 70 กว่าปีแล้ว แต่ลุงเสถียรไม่เคยอิดออดการช่วยเหลืองานด้านการศึกษาเลย และประการสุดท้าย คำสอนพ่อหลวงของแผ่นดิน ที่กล่าวว่า นอกจากการสอนให้เด็กได้เรียนแล้ว เด็กต้องหัดทำงาน สามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกอย่างหนึ่งคือ งานนี้ยังเป็นการตอบแทนชุมชนที่ให้เงินช่วยเหลือโรงเรียนเป็นจำนวนมาก
คุณอาคมเป็นกลไกหลักที่วางแผนการทำงาน ประสานงานกับกลุ่มต่างๆ และส่งต่อกิจกรรมให้กับครูประจำชั้นและครูวิชาต่างๆ ที่ผนวกกิจกรรมเข้าไปในรายวิชา ตลอดจนขับรถรับส่งนักเรียนไปทำกิจกรรม มีการทำงานร่วมกับ รพ.สต.และอนามัยชุมชน ให้มาช่วยอบรมและสาธิตวิธีการดูแลผู้สูงอายุให้กับนักเรียน และหาชั่วโมงการทำงานที่ตรงกันเพื่อให้มาทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียนได้ ประสานงานกับชมรมผู้สูงอายุและผู้ใหญ่บ้าน มีการประกาศเสียงตามสายก่อนวันจัดกิจกรรมว่าจะมีจิตอาสามาเยี่ยมผู้สูงอายุ
นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับการฝึกอบรมเรื่องการดูแลผู้สูงอายุนาน 2 เดือน มีการกำหนดจำนวนวันทำกิจกรรมต่อเดือน และนักเรียนเป็นผู้หาข้อมูลทั่วไปของผู้สูงอายุที่จะไปเยี่ยม เช่น อาศัยอยู่กับใคร มีโรคประจำตัวหรือไม่ เป็นต้น เมื่อถึงเวลาทำกิจกรรม จะมีการแบ่งหน้าที่ตามความถนัดของเด็ก บางส่วนจะวัดความดัน นวด ทาขี้ผึ้ง และพูดคุย อีกส่วนจะช่วยเก็บกวาดบริเวณบ้านให้เรียบร้อย โดยเด็กทุกคนจะได้รับสมุดเยี่ยมผู้สูงอายุที่ รพ.สต. ออกแบบ เพื่อบันทึกรายละเอียดต่างๆ และการลงพื้นที่แต่ละครั้งจะมีจิตอาสาผู้สูงอายุมาร่วมทำกิจกรรมด้วย
โครงสร้างการทำงานดังกล่าวทำให้โครงการสามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่องถึง 8 ปี โดยมีประธานชมรมผู้สูงอายุเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ เนื่องจากมีการประชุมงานกันทุกเดือน เด็กที่เคยเป็นจิตอาสาเมื่อจบการศึกษาไปแล้วยังมาช่วยเหลือในยามว่าง การดำเนินกิจกรรมมีปัญหาอุปสรรคน้อยมาก อาจหยุดบางช่วงเวลาเด็กต้องเตรียมตอบสอบหรือเป็นช่วงฤดูฝนเท่านั้น
ผลตอบรับจากกิจกรรม ทำให้โครงการได้รับเงินสนับสนุนจากเทศบาลตำบล 10,000 บาทต่อปี ตั้งแต่เริ่มทำโครงการปีที่ 2 และเกิดการประสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับทาง รพ.สต. ที่มีโครงการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอยู่แล้ว สอดคล้องกับโครงการของโรงเรียนพอดี
ส่วนผลตอบรับในระดับบุคคล ผู้สูงอายุจะรู้สึกชื่นใจ คลายเหงาลง เด็กๆ ก็รู้สึกอิ่มใจที่ได้ช่วยเหลือและใช้เวลาว่างทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น ลดโอกาสออกนอกลู่นอกทาง เพราะได้รับการปลูกฝังให้ทำในสิ่งที่ดี มีหัวใจกรุณา และเด็กๆ ยังได้รับทุนการศึกษาจากการบริจาคที่แบ่งตามปริมาณการทำกิจกรรม
กิจกรรมยังช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย สร้างชุมชนเข็มแข็งจากการมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน และผู้นำโครงการคือคุณอาคมได้รับความเชื่อมั่นจากบุคคลอื่นๆ เรื่องการทำงานได้ลุล่วงสำเร็จตามเป้าหมาย จนได้รับโล่ผู้ทำคุณประโยชน์จากสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย และได้รับเชิญเป็นวิทยากรเรื่องผู้สูงอายุในจังหวัดต่างๆ อยู่เนืองๆ
ก้าวต่อไป คุณอาคมมีแผนจะเชื่อมโยงงานกับศึกษานิเทศก์ เน้นการพูดคุยเรื่องคุณธรรมที่ออกจากกรอบพุทธศาสนาไปสู่การทำจิตอาสา และมีแผนจะคุยกับสภาวัฒนธรรมเพื่อนำเสนอวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวเมืองน่าน ให้ผู้มาเยือนมีรอยยิ้มจากน้ำใสใจจริงของคนน่าน
หากมีสถาบันการศึกษาหรือโรงเรียนที่สนใจจะทำโครงการลักษณะนี้ สามารถเชิญคุณอาคมไปเป็นวิทยากรอบรมเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานได้
วันที่ออกอากาศ: 18 มกราคม 2564
ผู้เรียบเรียง: สุรพิน อยู่สว่าง