
คุณจะเอ๋ ดารุณี สุดาอึ้ง ผู้ประสานงานกลุ่มจิตอาสาเมืองน้ำดำ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นคนชอบถ่ายภาพและรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เดินทางท่องเที่ยว ในฤดูหนาวปีหนึ่ง เพื่อนๆ มีความคิดจะมอบเสื้อกันหนาวให้กับเด็กบนดอยในจังหวัดกาฬสินธุ์บ้านเกิด เพราะเห็นว่ายังมีคนยากไร้และต้องการความช่วยเหลือ จึงจัดกิจกรรม “อุ่นกายไม่หนาวใจ” รวบรวมเสื้อผ้ามือสองและเอาไปบริจาคอย่างต่อเนื่องมา 12 ปี ทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักและเชื่อถือกลุ่มถ่ายภาพมากขึ้น และยินดีสนับสนุนหากกลุ่มจัดกิจกรรมอาสา จนทำให้กิจกรรมขยายไปถึงการช่วยเหลือด้านอุทกภัยหรือภัยพิบัติในจังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดการขยายเครือข่ายมากขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่ม “จิตอาสาเมืองน้ำดำ”
“การทำงานสมัยแรกๆ เริ่มจากกลุ่มวัยรุ่นน้องๆ ระดับมัธยมซึ่งใช้ช่องทางออนไลน์ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ HI5 โพสต์กิจกรรม เช่น เปิดหมวกหาเงินบริจาค หานักดนตรีมาร่วมเปิดหมวก นี่คือช่องทางแรกจนพัฒนามาเป็นเฟซบุ๊กในปัจจุบัน ซึ่งทำให้การสื่อสารไปไกลขึ้น เริ่มมีเครือข่ายสนับสนุนจากหลากหลายพื้นที่และกลุ่ม ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานสนใจการทำกิจกรรมอาสา ไม่ว่าการเดินทางไปบริจาคในพื้นที่ยากไร้ การจัดกิจกรรมช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยพิบัติไม่ว่าในหรือต่างประเทศ เช่น เมื่อเนปาลประสบภัยพิบัติ"
คุณจะเอ๋เล่าว่า จุดเปลี่ยนสำคัญในการทำงานจิตอาสาของเธอคือ การเจอเคสประสบอุบัติเหตุเด็กพิการออทิสติกตกน้ำเสียชีวิต ทำให้เกิดความพยายามเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มคนพิการ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้ป่วยระยะท้าย จนเกิดโครงการ “จุติสุขาวดี” ช่วยดูแลคนยากไร้จัดงานศพในเขตเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเห็นคนยากไร้เสียชีวิต แล้วงานศพลดทอนพิธีกรรมเหลือเพียงแค่การเดินรอบเมรุ 3 รอบแล้วเผาเลย ไม่มีการสวดอภิธรรมหรือทำพิธีเพื่อให้ครอบครัวผู้ตายรู้สึกสงบตามความเชื่อทางศาสนา ทำให้กลุ่มมองเห็นว่าความตายของผู้ยากไร้ไม่มีศักดิศรีความเป็นมนุษย์พอเพียง เพราะไม่มีเงินจัดงานศพ
แต่การจัดพิธีกรรมความตายทางศาสนาพุทธมีค่าใช้จ่ายสูง แม้ช่วงแรกจะใช้การระดมทุนสนับสนุนการจัดงานศพให้ แต่ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมการตายจึงสร้างภาระให้คนอยู่ที่ยากไร้มากนัก ทำให้กลุ่มสร้างแนวคิด “จุติสุขาวดี” 3 ประการคือ 1.ทำให้คนยากไร้ตายไปอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2. งานศพต้องมีพิธีกรรมตามหลักศาสนาที่ผู้ตายนับถือ แต่ต้องเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือย และ 3. ไม่ช่วยด้วยการให้เงินบริจาคแก่ผู้ป่วยหรือญาติโดยตรง เพราะอาจจะโดนครหาเรื่องความโปร่งใส
“หัวใจในการทำงานจิตอาสาเป็นสิ่งที่เราได้จากการเดินทางท่องเที่ยวและเห็นคนทำงานจิตอาสา การช่วยคนอื่นจึงไม่ใช่การไปทำเรื่องยากๆ เสมอไป แต่หมายถึงการทำสิ่งที่เรียบง่ายที่เราทำได้” แม้คุณจะเอ๋จะเริ่มต้นการทำงานจิตอาสาจากความสนใจส่วนตัวไม่ว่าการถ่ายภาพ การเดินทางท่องเที่ยว ไม่ได้สนใจเรื่องศาสนาแต่แรก แต่จะคุณเอ๋ใช้ความสนใจส่วนตัวเชื่อมโยงกับเพื่อนฝูงให้มาร่วมคิดทำกิจกรรมดีๆ ที่ตนเองถนัดและทำได้ต่อสังคม
คุณจะเอ๋กล่าวว่า ความตายเป็นสิ่งที่สามารถเตรียมตัวได้ แม้จะรู้ว่าเศร้า แต่ต้องเศร้าอย่างมีสติ การประสบกับภาวะที่คุณพ่อป่วย ทำให้เธอสนใจการเรียนรู้เพื่อรับมือความตาย และทำให้เข้ามาร่วมกิจกรรมกับ Peaceful Death จนเห็นความสำคัญ ทำความเข้าใจ จนขยายไปสู่การทำงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล คณะสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์
การจัดอบรมที่ทำให้เห็นอาสาสมัครพัฒนาตนเองในด้านชีวิตส่วนตัวและการทำงานร่วมกับผู้เจ็บป่วย คือความภาคภูมิใจของการทำงาน จากเรื่องความตายและขยายไปสู่การร่วมมือกันขับเคลื่อนเรื่องการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าและการตายดีในที่สุด
วันที่ออกอากาศ: 27 ธันวาคม 2563
ผู้เรียบเรียง: ศิริรุ่ง ศรีสิทธิพิศาลภพ