parallax background
 

สุขหรือทุกข์กับสิ่งที่เรามี

ผู้เขียน: แคทมิน หมวด: ประสบการณ์ชีวิต


 

เชื่อว่าเราหลายคนคงเคยเห็น หรือเคยเดินผ่านคนที่ดูเหมือนสติไม่สมประกอบที่มีพฤติกรรม หรือแต่งตัวแปลกๆ บ้างก็พูดอยู่คนเดียวเป็นเรื่องเป็นราว มองเผินๆ เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ หรือบางคนก็ตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งเรามักจะเรียกรวมๆ คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ว่า “คนบ้า”

ด้วยความสงสัยว่าทำไม “คนบ้า” เขาถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น เมื่อลองค้นข้อมูลก็พบว่า สาเหตุมาจากการสูญเสียการรับรู้บางอย่างตามความเป็นจริง หรือมีอาการหลงผิดบางอย่าง เช่น คิดว่ามีคนปองร้าย เป็นเทพมาจุติ หรือคิดว่าตัวเองเป็นเทวดา รวมถึงเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิด เห็น หรือได้ยินนั้นเป็นเรื่องจริง ส่งผลให้คนเหล่านี้แสดงอาการต่างๆ อย่างที่เราเห็นกัน คนเหล่านี้มักที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ที่เราผ่านไปผ่านมา มีคนหนึ่งบอกว่า เขาเคยลองนับคนบ้าที่ตัวเองเจอในปีหนึ่งๆ มีมากกว่า ๒๐ คน ผู้เขียนเองแม้จะไม่เคยนับ แต่ก็แน่ใจว่าจำนวนน่าจะไม่น้อยไปกว่ากัน แม้ว่าบางครั้งคนที่เจอมักเป็นคนเดิมๆ

ลักษณะของคนบ้าที่เราเคยเห็น มักจะมีผมเผ้ารุงรัง เนื้อตัวสกปรก มีกลิ่นตัวลอยมา เนื่องจากไม่ได้อาบน้ำมานาน คนบ้าที่ผู้เขียนเจอบ่อยๆ ไม่ไกลจากบ้านนัก สังเกตว่าเวลาไปไหนมาไหนก็มักจะลากกระเป๋าเดินทางเก่าๆ พร้อมกับหอบข้าวของพะรุงพะรังไปด้วยเสมอ ซึ่งเมื่อสังเกตดู ข้าวของที่หอบหิ้วหรืออยู่รอบกายนั้น ในสายตาของคนอื่น ดูเหมือนจะไม่มีราคาค่างวดอะไร บางคนอาจจะเรียกว่าเป็นขยะด้วยซ้ำไป

ภาพของคนบ้าที่เจอทำให้นึกถึงเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผู้เขียนมีโอกาสได้รับรู้เรื่องราวของเธอ ชวนให้เรากลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง รวมถึงเริ่มกลับมาสำรวจข้าวของที่อยู่รอบตัวเรา ในอดีตเธอมีสามีที่ร่ำรวย ใช้ชีวิตแบบคนมีฐานะ ไปงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง มีอาหารการกินดีๆ มีข้าวของเสื้อผ้าที่ทันสมัย รวมถึงอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ต่อมาชีวิตพลิกผันเมื่อสามีตายจากไป ทำให้เปลี่ยนจากคนมีฐานะกลายเป็นต้องหอบข้าวของไปเช่าห้องเล็กๆ อยู่ และหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานรับจ้างรายวันและเก็บของเก่าขาย

แน่นอนว่าเธอยอมรับความเป็นจริงของชีวิตที่เผชิญอยู่ไม่ได้ สิ่งที่รับรู้จากเรื่องราวในอดีตที่เธอถ่ายทอดออกมา บ่งบอกว่าเธอยังฝังใจกับภาพในอดีตที่มีความสุข ดูจากข้าวของเสื้อผ้าที่ถูกเก็บไว้ในลัง หรือตามลิ้นชัก จะเป็นชุดราตรียาวสิบๆ ชุด ยังไม่นับข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ที่แออัดอยู่ในห้องเช่าแคบๆ เหลือที่สำหรับนอนเป็นเพียงโต๊ะตัวเล็กๆ ที่มีขนาดแคบเกินกว่าที่จะนอนเหยียดแขนขาได้เต็มที่

เธอใช้ชีวิตแบบนี้มานานหลายปีจนส่งผลกระทบกับร่างกาย เธอป่วยเป็นโรคปอดเนื่องจากสภาพที่อยู่อาศัยเต็มไปด้วยฝุ่นจากข้าวของที่เก็บไว้ เป็นโรคกระดูกทับเส้นที่เนื่องมาจากนอนในท่าที่ไม่ถูกต้องและแบกของหนักจากการตะเวนเก็บของเก่าขาย

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าฉันไม่มีวันเป็นอย่างนั้นหรอก หรือเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับฉันหรอก แต่อยากให้ลองทบทวนว่า มีบ้างไหมที่เราต้องถือของพะรุงพะรัง หรือหนักจนบางครั้งส่งผลให้รู้สึกปวดเนื้อปวดตัว ตอนนั้นเรารู้สึกอย่างไร

เรื่องราวของเธอหรือของคนบ้าที่หอบข้าวของพะรุงพะรังที่พบเจอ ทำให้กลับมาคิดทบทวนว่า ที่ผ่านมาเราสะสมข้าวของเหล่านี้ไปเพื่ออะไร เพราะสิ่งที่เรามีไม่เพียงให้ความสุขกับเราเท่านั้น แต่ยังให้ความทุกข์กับเราด้วย เพราะเราย่อมหวงแหนหรือเกิดความรู้สึกเสียดายเมื่อของหายหรือถูกขโมยไป หรือเป็นทุกข์เมื่อมีใครมาบอกว่าของของเราไม่สวยหรือเป็นของปลอม ยิ่งมีมากก็ยิ่งเป็นภาระในการดูแลหรือจัดการกับข้าวของเหล่านั้นเช่นกัน เพราะไม่ว่าเราจะเก็บรักษาดีเพียงใด สิ่งของเหล่านั้นก็ย่อมเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

ในวันที่เรายังมีสุขภาพดี อยากชวนมาสำรวจสิ่งของที่เรามี หรือที่เคยเก็บสะสมไว้ บางอย่างที่เราเก็บไว้แล้วไม่ได้ใช้ หรือกลายเป็นภาระ เราจะจัดการอย่างไร เพราะเราไม่รู้ว่าวันที่เราป่วยหรือแย่กว่านั้นคือ ต้องตายไปโดยที่ยังไม่ได้จัดการ หรือใจเรายังพะวงอยู่กับสิ่งของที่เรามี อาจจะทำให้เราตายไม่สงบ หรือตายไปแล้วกลายเป็นผีเฝ้าสมบัติ

เชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่อยากเป็นแบบนั้น แล้วเราจะทำอย่างไรดี ใครก็คงตอบคำถามนี้ไม่ได้ดีเท่าตัวเราเองว่าวันนี้เราจัดการกับสิ่งของของเราอย่างไร เพื่อวันหน้าเราจะรู้สึกโปร่งเบา และพร้อมมากขึ้น

[seed_social]
20 เมษายน, 2561

กลัว ไม่กลัว รู้ได้อย่างไร

นทีเริ่มปั่นป่วนดุจกระแสนทีที่เชี่ยวกราก – เอายังไงดี ...-ใจเต้นตูมตามยังไงๆ ก็จะเดินตามคนอื่น มั่วนิ่มตามๆ กันไป ระหว่างเดินไปๆ เมื่อบอกกับตัวเองว่าจะต้องไปเยี่ยมคนไข้ระยะสุดท้าย
28 พฤศจิกายน, 2560

เบาใจ…สบายกาย

ความรักมักวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ จะเรียกว่าตลอด 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายรักเขา ก็เป็นฝ่ายถูกรัก ยิ่งใครเป็นคนชอบเขียนไดอารีประจำวันและเกิดรักใครขึ้นมาสักคน รับรอง
31 มกราคม, 2561

ณ กาลครั้งนั้น

บนเส้นทางความรู้ก้าวแรก คือการตั้งคำถามถ้าวันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะทำอะไรก็ได้บนโลกใบนี้เราจะทำอะไร?