เรียบเรียงโดย ถิรนันท์ ถิรสิริสิน
วันที่เผยแพร่ 1 พฤษภาคม 2567
แรงงานข้ามชาติสร้างประเทศ สนับสนุนการดูแลสุขภาพของแรงงานข้ามชาติทั้งในระบบบริการสุขภาพตามสิทธิที่พึงมี และผลักดันการรวมกลุ่มของแรงงานเพื่อสนับสนุนเครือข่ายการดูแลในชุมชนแรงงานข้ามชาติ
ชวนติดตามสถานการณ์สุขภาพ การดูแลรักษาสุขภาพของแรงงานข้ามชาติในไทย การดูแลแบบประคับประคองในแรงงานข้ามชาติที่อำเภอเม่สอด จ.ตาก ตลอดจนความร่วมมือของแรงงานข้ามชาติในการดูแลเพื่อนแรงงานด้วยกัน และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการอยู่ดีตายดี จากบันทึกการเสวนาชุมชนกรุณากับกลุ่มชายขอบ “แรงงานข้ามชาติกับสิทธิการอยู่ดีตายดี” วันที่ 19 มกราคม 2567 เวลา 19.00-20.30 น. (Facebook Live)
ผู้ร่วมเสวนา
- ชูวงศ์ แสงคง อาสาสมัครทำงานประเด็นแรงงานข้ามชาติ อดีตภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนเรื่องแรงงานข้ามชาติกว่า 20 ปี
- Yin Htwe หรือชัย อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวชาวเมียนมาร์
- ศิริจิต เนติภูมิกุล พยาบาลวิชาชีพ Palliative care โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
- กนกวรรณ กนกวนาวงศ์ ดำเนินรายการ

1. สถานการณ์แรงงานข้ามชาติ และสิทธิการรักษาในระบบสุขภาพไทย
ข้อมูลแรงงานข้ามชาติในไทยยังไม่มีข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนกลาง แต่อาจสืบค้นได้จากหน่วยงานของรัฐที่ดูแลแรงงานข้ามชาติ ได้แก่
- กระทรวงแรงงาน ดูแลเรื่องการอนุญาตทำงาน รายงานข้อมูลแรงงานในระบบทุกเดือน
- สำนักงานประกันสังคม รายงานข้อมูลแรงงานที่อยู่ในระบบหลักประกันสังคม
- กองเศรษฐกิจและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข รายงานข้อมูลแรงงานที่เข้าถึงบัตรประกันสุขภาพ
- โดยประมาณแรงงานข้ามชาติในไทยมีจำนวนราว 5 ล้านคน
แรงงานข้ามชาติเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้จากระบบประกันสังคม และระบบบัตรประกันสุขภาพ ซึ่งมีสิทธิใกล้เคียงกับหลักประกันสุขภาพของคนไทย รายละเอียดดังนี้
- ระบบประกันสังคม สำหรับแรงงานข้ามชาติ ตามหลักการมีสิทธิรับบริการสุขภาพเหมือนคนไทย แต่ในทางปฏิบัติอาจได้รับบริการต่างกัน
- บัตรประกันสุขภาพสำหรับแรงานข้ามชาติ สำหรับแรงงานต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงาน แต่ลักษณะงานยังไม่สามารถเข้าระบบประกันสังคมได้ นายจ้างสามารถซื้อบัตรประกันสุขภาพให้กับแรงงานได้ ราคา 1,600 บาท/คน โดยมีเงื่อนไขให้แรงงานต้องตรวจสุขภาพประจำปี ปีละ 500 บาท
- บัตรประกันสุขภาพสำหรับคนต่างชาติ สำหรับกรณีไม่ใช่แรงงาน เป็นผู้ติดตามแรงงาน สามารถซื้อบัตรประกันสุขภาพ ราคา 2,900 บาท/คน
- บัตรประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ราคาบัตรสุขภาพสำหรับเด็ก ราคา 365 บาท/คน
แม้ระบบจะให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงหลักประกันสุขภาพได้ แต่ก็มีข้อจำกัดในทางปฏิบัติ ได้แก่
- การซื้อบัตรประกันสุขภาพผูกโยงกับการต่อใบอนุญาตของแรงงาน ซึ่งเป็นการใช้ดุลยพินิจ ทำให้แรงงานไม่สามารถเข้าถึงบัตรประกันสุขภาพได้ ไม่ได้เป็นอิสระหรือคล่องตัวในการเข้าถึงบัตรประกันสุขภาพ
- ปัญหานายจ้างไม่สนับสนุนการซื้อบัตรประกันสุขภาพ เพราะต้องพาแรงงานไปตรวจสุขภาพ มีค่าใช้จ่าย ต้องเดินทาง รวมถึงต้องจัดการยื่นเอกสารเพื่อต่อใบอนุญาตทำงานให้แรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีหลายขั้นตอน
- แรงงานไม่ต้องการใช้บัตรประกันสุขภาพในการรักษาพยาบาล เพราะที่โรงพยาบาลตามสิทธิใช้เวลานานในการได้รับบริการ ต้องลางาน
แรงงานข้ามชาติที่ไม่ต้องการใช้บัตรประกันสุขภาพ สามารถซื้อประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 1,000 บาท ต่อ 3 เดือน ซึ่งมีข้อจำกัดคือเมื่อไปรับบริการโรงพยาบาลเอกชนมมักจะให้สำรองจ่ายก่อน
2. เมื่อแรงงานข้ามชาติเจ็บป่วย
- สถานการณ์ความเจ็บป่วยและการดูแลรักษาของแรงงานข้ามชาติ แบ่งได้เป็นหากป่วยเล็กน้อย เลือกไปซื้อยาที่ร้านขายยา หรือไปหาหมอคลินิกใกล้บ้าน เพื่อรับการฉีดยา
- ในมุมของแรงงานเมียนมาร์เลือกไปรับการรักษาด้วยการฉีดยาที่คลินิก เพราะรู้สึกว่าจะหายเร็ว เปรียบเทียบกับการรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐ มักจะให้เป็นยา สอดคล้องกับที่ไปโรงพยาบาลแล้วเสียเวลาทั้งวัน แรงงานจึงไม่อยากไปรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐ
- อย่างไรก็ดี การมีบัตรประกันสุขภาพจะมีความสำคัญกับแรงงานในกรณีที่เจ็บป่วยหนัก หรือเจ็บป่วยที่ส่งผลกระทบกับชีวิต เพราะการรับบริการที่โรงพยาบาลจะดูแลได้ครอบคลุมและประหยัดค่ารักษาพยาบาลมากกว่า
- หากไม่มีบัตรประกันสุขภาพ แรงงานที่เจ็บป่วยหนักจึงมักจะปล่อยให้อาการป่วยรุนแรงมากขึ้น แล้วค่อยเข้าสู่การรักษา ซึ่งอาจจะเป็นการรักษาที่ล่าช้า มีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้นตามไปด้วย
- นอกจากนั้น ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง จะไม่สามารถเข้าบัตรประกันสุขภาพได้ เมื่อเจ็บป่วยในระยะต้นก็ไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาล เพราะความกลัว และอุปสรรคเรื่องเงิน ส่งผลให้ความเจ็บป่วยรุนแรงขึ้น จนเมื่อต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลก็มักจะถูกตำหนิที่ปล่อยให้อาการเป็นหนัก
- อีกรูปแบบหนึ่งคือ แรงงานข้ามชาติจะดูแลกันเองในกลุ่มหรือในชุมชน โดยจะช่วยดูแลชีวิตประจำวันผู้ป่วย ทำแผล เตรียมอาหาร ระดมทุนค่ารักษาพยาบาล จัดหาอุปกรณ์การรักษาพยาบาล รวมไปถึงการแปลเอกสาร ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ
3. ความร่วมมือในการดูแลแรงงานข้ามชาติ
อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.)
- อสต. คืออาสาสมัครสาธารณสุขที่เป็นแรงงานข้ามชาติด้วยกันเอง ทำหน้าที่สนับสนุนและดูแลสุขภาพเบื้องต้นให้กับแรงงานข้ามชาติ เหมือนกับ อสม. ผ่านการอบรมหลักสูตรและมีการขึ้นทะเบียนโดยกระทรวงสาธารณสุข
- ปัจจุบันมี อสต. ทั่วประเทศประมาณ 7,000 คน ทำงานร่วมกับโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ NGO ในพื้นที่
- อสต. จะอยู่ในเกือบทุกพื้นที่ที่มีแรงงานข้ามชาติอยู่อาศัยหรือทำงาน เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร
- อสต.จะทำหน้าที่ดูแลให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ สิทธิการรักษา การใช้ชีวิตในชุมชน ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน
- ในการรักษาพยาบาล อสต. จะเป็นคนกลางระหว่างแรงงานกับบุคลากรสุขภาพ/โรงพยาบาล ช่วยประสานงาน แปลเอกสาร ช่วยให้แรงงานได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล รวมถึงเจรจาต่อรองค่ารักษาพยาบาลกับหน่วยสังคมสงเคราะห์ และรักษาเครดิตแรงงานข้ามชาติกับโรงพยาบาลด้วย
การดูแลแรงงานข้ามชาติที่เจ็บป่วยระยะท้ายที่แม่สอด
- อำเภอแม่สอดเป็นเมืองชายแดน มีเขตแดนติดตามพม่า 700 กิโลเมตร
- แม่สอดเป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรม มีความหลากหลายทางศาสนา งานดูแลประคับประคองของโรงพยาบาลแม่สอด สนับสนุนการจัดการความตายและงานศพของคนที่มีหลากหลาย โดยการเปิดพื้นที่ให้ประกอบพิธีกรรมทางจิตวิญญาณตามตามความเชื่อ
- ในแรงงานข้ามชาติที่เจ็บป่วยระยะท้ายและไม่มีบัตรประกันสุขภาพ หน่วยประคับประคองของโรงพยาบาลแม่สอดจะไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วย สนับสนุนยาและอาหาร โดยร่วมงานกับอาสาสมัครคริสตจักร ในการส่งมอบยา
- ในพื้นที่แม่สอด พบว่ามีจิตอาสาโดยธรรมชาติ หรือการรวมกลุ่มของแรงงานเพื่อดูแลเพื่อนแรงงานด้วยกัน พบในกลุ่มแรงงานเมียนมาร์ภาคการเกษตร ใกล้กับบริเวณชายแดน แรงงานกลุ่มนี้แม้จะใช้ชีวิตลำบาก แต่ก็ดูแลเพื่อนแรงงานที่เจ็บป่วยด้วยการเอาอาหารมาแบ่งปันกัน ทำความสะอาดแผล
- นอกจากนั้น แรงงานข้ามชาติในพื้นที่แม่สอดยังตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อช่วยเหลือการฌาปนกิจ ช่วยเหลือเวลาเจ็บป่วยและการเสียชีวิต และเพิ่มทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ เช่น ขออนุญาตเรื่องการจัดงานศพ
- งานดูแลแบบประคับประคองที่โรงพยาบาลแม่สอด จะดูแลแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้ด้วยการเบิกจ่ายยา ดูแลอาหาร สนับสนุนด้านสุขภาพที่เกินกำลังการดูแลกันเองของแรงงาน
4. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
- สื่อสารและสนับสนุนว่าแรงงานข้ามชาติมีอยู่จริง แรงงานข้ามชาติเป็นกำลังสำคัญของภาคแรงงานไทย
- มีนโยบายสนับสนุนแรงงานข้ามชาติทุกคนในไทยมีประกันสุขภาพของรัฐทุกคน
- โดยอำนวยความสะดวกให้แรงงานสามารถเข้าถึงหลักประกันสุขภาพได้อย่างคล่องตัว ลดการผูกขาดกับนายจ้าง อำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารและระบบออนไลน์
- สนับสนุนการรวมกลุ่มของแรงงานข้ามชาติ เพราะเครือข่ายแรงงานมีส่วนช่วยในการสร้างชุมชนของการดูแลแรงงานด้วยกัน
- สนับสนุนให้เกิดปฏิบัติการและพื้นที่ชุมชนกรุณาในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ชวนแรงงานเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล เพื่อให้เกิดการดูแลกันอย่างเข้มแข็งในชุมชนกรณีเจ็บป่วยไม่มาก เป็นการช่วยลดความจำเป็นในการเข้าโรงพยาบาลลดงานของบุคลากรสุขภาพ เพื่อให้บุคลากรสุขภาพได้ดูแลแรงงานข้ามชาติในกรณีที่เจ็บป่วยหนัก หรือส่งต่อการดูแลรักษาที่เกินมือชุมชนแรงงานข้ามชาติให้บุคลากรสุขภาพ
- รับรองอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวว่ามีบทบาทช่วยดูแลสุขภาพพี่น้องแรงงานข้ามชาติและคนไทย สนับสนุนให้ อสต. มีตัวตน อยู่ในระบบสุขภาพ และเพิ่มทักษะการดูแลที่จำเป็นให้กับ อสต. เช่น การดูแลผู้ป่วยระยะท้าย
- สนับสนุนโครงการ/หลักสูตรเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังก่อนออกจากเรือนจำ
- ขยายผลการดูแลสุขภาพระยะท้ายในเรือนจำ สนับสนุนการวางแผนดูแลล่วงหน้าให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ