
ครูแข อัมพิกา ไกรอ่ำ รับราชการครูที่โรงเรียนเชียงคำ จังหวัดพะเยา นำวิชาความตายมาเป็นพื้นที่การเรียนรู้ใคร่ครวญและตระหนักรู้ความจริงของชีวิต ผ่านทักษะกระบวนกรด้วยการปรับใช้ “เกมไพ่ไขชีวิต” และ “สมุดเบาใจ” กับนักเรียนและชุมชน เชื่อมประสานโรงเรียนและชุมชนผ่านการพูดคุยเรื่องราวของความเจ็บป่วยและความตาย รวมถึงนำมาปรับใช้กับชีวิตตนเอง
ครูแขสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ Peaceful Death จากข่าวประชาสัมพันธ์เกมไพ่ไขชีวิตและสมุดเบาใจในเฟซบุ๊ก เมื่อได้ลองเล่นแล้วรู้สึกประทับใจ รู้สึกดีที่ได้เห็นความจริงของชีวิต แม้ว่าความตายเป็นสิ่งที่คนโดยทั่วไปไม่อยากพูดถึงและอยากฟัง แต่เมื่อได้ผ่านกิจกรรมจึงเกิดคำถามว่า “ความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แล้วทำไมเราจึงพูดออกมาไม่ได้ง่ายๆ”
การที่ครูแขมาเรียนรู้เรื่องความตาย และเรียนรู้กระบวนการทำความเข้าใจเรื่องความตายจากเสมสิกขาลัย ผ่านการอบรมกระบวนกร 1 ปี ได้เปลี่ยนมุมมองที่ครูแขมีต่อเด็กนักเรียน เช่น การไม่ตัดสินเด็กและคนอื่นๆ เกิดมุมมองต่อชีวิตแตกต่างไปจากเดิม
คุณแขจึงทดลองนำกิจกรรม “เกมไพ่ไขชีวิต” และ “สมุดเบาใจ” มาปรับใช้ในโรงเรียน ด้วยการชวนนักเรียนมัธยมปลายมาเล่นเกมไพ่ไขชีวิต เริ่มต้นจาก “การฟังอย่างไม่ตัดสิน” เป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่า ในการทำกิจกรรม เราต้องแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ของตัวเองกับเพื่อนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องถูกหรือผิด แต่เป็นประสบการณ์ตรงของแต่ละคนที่มีคุณค่ามากกับคนอื่น เพราะอาจช่วยต่อเติมการเรียนรู้หรือคลี่คลายปัญหาที่ติดขัดให้ชัดเจนขึ้น
จากนั้นจึงเริ่มพูดคุยเรื่อง “ความตาย” ด้วยการตั้งคำถามกับเด็กๆ ว่า “ทำไมคนถึงไม่ชอบพูดถึงเรื่องความตายในชุมชน ในสังคม ทำไมผู้คนมีปฏิกิริยาไม่รับเรื่องความตายและมองว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย” แม้บางคนจะมองว่าชีวิตของพวกเขายังห่างไกลจากคำว่าความตาย แต่การไล่คำถามเพื่อให้เห็นว่าความตายเกี่ยวข้องกับคนสูงอายุเท่านั้นจริงหรือไม่ ทำให้พวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องความตายแม้ยังอยู่ในวัยเบิกบาน เพื่อจะได้มีเครื่องรับมือกับความตายที่เกิดขึ้นในชีวิต
หลังจากดำเนินกิจกรรมภายในโรงเรียน ครูแขยังขยายผลไปยังชุมชน โดยมีสมาชิกนักเรียนและผู้ปกครองร่วมสนับสนุน ให้นักเรียนฝึกทำแผนที่ชุมชน พูดคุยกับชุมชนเรื่องการจัดกิจกรรมและการพัฒนาลูกหลานของคนในชุมชน ทำให้เด็กๆ กล้าคิดกล้าแสดงออกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กบางคนที่แม้จะหลุดออกจากระบบการศึกษาไปแต่งงาน มีลูก แต่ก็ยังทำงานได้ มีเงินเดือน และดูแลตัวเอง นำพาชีวิตตัวเองได้
ครูแขกล่าวว่า อาจจะเป็นด้วยวัยใกล้เกษียณ ทำให้เธอมองเห็นหลายอย่างในชีวิตไม่ว่าความคาดหวัง ความทะเยอทะยาน เห็นชีวิตของเด็กจากวัยรุ่นจนถึงวัยร่วงโรยว่า สุดท้ายชีวิตทุกคนมาจบที่ “ความตาย” ถ้าเราเข้าใจเรื่องความตาย จะช่วยให้เข้าใจเรื่องอื่นๆ ไปด้วย บางทีความตายช่วยทำให้เราหยุดบางเรื่อง หยุดวิธีคิดบางอย่าง เช่น คนที่รู้สึกทุกข์มากเพราะสิ่งที่เผชิญอยู่ ถ้าเขาคิดถึงความตาย เขาจะตั้งคำถามว่าทำไมต้องมาทุกข์อยู่อีก ทำไมไม่ทำเรื่องอื่นที่ดีกับชีวิต หรือเกลียดใครสักคนหนึ่งจนทนไม่ไหว ก็จะตั้งจิตได้ว่าทำไมต้องไปทะเลาะ ไปโกรธ น่าจะไปสร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองดีกว่า
การนำเด็กมาร่วมกิจกรรมกับชุมชน เป็นการเชื่อมโยงผู้คนหลากหลายวัย เห็นมุมมองของเด็กและผู้ใหญ่ในเรื่องความตาย ได้แสดงทัศนะ แลกเปลี่ยนมุมมอง เปิดใจกว้างทำความเข้าใจความคิดที่แตกต่างกัน และการสรุปบทเรียนจากมุมมองความตายยังทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกดี ช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยอีกด้วย
เกมไพ่ไขชีวิตช่วยสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและเป็นประโยชน์ ทำให้การพูดคุยความตายไม่สร้างความเจ็บปวดหรือความทุกข์ แต่เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันทางกายและใจ การเตรียมพร้อมในทุกขณะเพื่อรับมือเมื่อความตายเข้ามาใกล้ในอนาคต
วันที่ออกอากาศ: 20 ธันวาคม 2563
ผู้เรียบเรียง: ศิริรุ่ง ศรีสิทธิพิศาลภพ