parallax background
 

ผู้ป่วยข้างถนน คนชายขอบของวงการสาธารณสุข

ผู้เขียน: กฤติน ลิขิตปริญญา หมวด: ชุมชนกรุณา


 

ปัจจุบันวงการสาธารณสุขไทยในมิติของการตายดีรุดหน้าไปอย่างมาก ทั้งการรักษาแบบประคับประคองที่เริ่มถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง หรือข่าวใหญ่เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2562 ที่มีชาวไทยตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงด้วยวิธีการการุณยฆาต (Mercy Killing) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นอีกหนึ่งข้อถกเถียงให้กับสังคมไทยทำความรู้จักกับประเด็นละเอียดอ่อนอย่างความตายด้วยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรื่องสิทธิในการตายหรือคุณภาพในการตายดีจะเริ่มถูกพูดถึงเพียงใด แต่ดูเหมือนว่ามันก็ถูกพูดถึงเพียงแค่โลกของคนกลุ่มใหญ่เท่านั้น เพราะในทัศนะของคนชายขอบอย่างคนเร่ร่อนและผู้ป่วยข้างถนนแล้ว คำว่า ‘ตายดี’ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากถ้อยคำในห้วงฝันคำหนึ่งเท่านั้น

ความเจ็บป่วยของ “คนไร้บ้าน” และ “ผู้ป่วยข้างถนน”

ในโลกของคนที่มีแผ่นฟ้าเป็นเพดานและมีดวงดาวเป็นดั่งดวงไฟ โรคภัยไข้เจ็บที่คุกคามชีวิตของคนไร้บ้านและผู้ป่วยข้างถนนสามารถแบ่งออกได้หลักๆ คือ โรคภัยไข้เจ็บทางกายและโรคภัยไข้เจ็บทางใจ

โรคทางกาย
นายสิทธิพล ชูประจง หัวหน้าทีมโครงการผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงากล่าวว่า ส่วนใหญ่คนไร้บ้านจะล้มป่วยลงด้วยโรคหลักๆ คือ เอชไอวี วัณโรค โรคตับและแผลติดเชื้อเพราะขาดสุขอนามัยที่ดี คนเร่ร่อนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจกระบวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และไม่สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยสวัสดิการต่างๆ ได้

“เช่น ผู้ติดเชื้อ HIVหรือผู้เป็นวัณโรค ไม่รู้ว่าจะพาตัวเองไปรักษาอย่างไร นอกจากนี้ยังติดเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น “เขามีบัตรสามสิบบาทก็จริง แต่ตัวเขาเป็นคนอุดรฯ ที่มาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถใช้บัตรสามสิบบาทในโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ได้ หรือที่พบระยะหลังก็คือ โรคตับ แผลพุพอง แผลติดเชื้อ แผลเน่า แล้วไม่ได้เข้ารับการรักษา หรือไม่ก็เข้ารับการรักษาแล้ว แต่ไม่ดีขึ้นเนื่องจากดูแลไม่ดี และเหมือนกับว่าตัวผู้ป่วยเองก็ไม่อยากดูแลตัวเองด้วย”

โรคทางใจ
โรคทางใจหรืออาการทางจิตก็เป็นอีกหนึ่ง ‘ภัยไข้เจ็บ’ ของผู้ป่วยไร้บ้านด้วยเช่นกัน นายสิทธิพล กล่าวต่อไปว่า “ผู้ป่วยทางจิตเวชจำนวนมากใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่สาธารณะนะครับ ...ส่วนใหญ่เป็นโรคจิตเภท หรือ Schizophrenia จึงทำให้เกิดปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตของเขา เพราะเขาเห็นภาพหลอน หูแว่ว ไม่อยู่กับความเป็นจริง”

คนไร้บ้านกับผู้ป่วยข้างถนน(ที่เป็นจิตเวช)ต่างกันอย่างไร ?

คนไร้บ้านกับผู้ป่วยข้างถนนที่เป็นจิตเวช แม้จะเป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะเช่นเดียวกัน แต่ ผู้ป่วยที่เป็นจิตเวชออกมาจากบ้านเพราะมีอาการทางจิตเป็นสาเหตุสำคัญ ส่วนคนไร้บ้านส่วนใหญ่ ออกมาใช้ชีวิตเร่ร่อนเพราะมีความขัดแย้งกับญาติพี่น้องเป็นแรงขับ

“โฮมเลสกับผู้ป่วยข้างถนนที่เป็นจิตเวชเป็นคนละกลุ่มกัน มันไม่มีความทับซ้อนกันมากขนาดนั้น โฮมเลส เขาออกมาจากบ้านเพราะ ทะเลาะกับที่บ้าน ในเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือมีปัญหากับที่บ้าน

“แต่ผู้ป่วยข้างถนนที่เป็นจิตเวชเป็นกลุ่มที่ออกจากบ้านด้วยอาการ เบลอ หลงลืม ในเวลาที่ไม่มีคนดูแล”

งานศพของผู้ป่วยข้างถนน
‘การตายดี’ ความหมายของคำๆ นี้ ส่วนใหญ่แล้วหนีไม่พ้นภาพการจากไปอย่างสงบ การใช้วาระสุดท้ายภายในบ้านหรือสถานที่ๆ รายล้อมไปด้วยบุคคลอันเป็นที่รัก แต่สำหรับความตายของผู้ป่วยข้างถนนหรือคนไร้บ้านแล้ว ลมหายใจสุดท้ายหมดไปริมทางเท้า หรือบางครั้งบางคราวก็หมดลมหายใจกลางถนน

“ส่วนมากก็เสียชีวิตข้างถนน ... ใช่ ก็หมดลมข้างถนนเลย อุบัติเหตุมีอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อยมากครับ นอกจากเขาเมาหรือว่าอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงจริงๆ ผมเคยเจอเคสนึง เขาอยู่แถวทางจะไปกองสลาก ที่มันจะมีโซนเป็นเกาะกลาง แล้วรถก็พุ่งมาชนเสียชีวิต” นายสิทธิพลกล่าว

เมื่อผู้ป่วยข้างถนนเสียชีวิตแล้ว ทำอย่างไรต่อ ?
ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายศพ ทีมงานผู้ป่วยข้างถนนดำเนินขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

หนึ่ง. ทีมงานผู้ป่วยข้างถนน เป็นผู้ประสานงานนำศพส่งโรงพยาบาล สอง. หาทางติดต่อไปยังญาติของผู้ตาย เพื่อเซ็นรับรองและนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ถ้าไม่สามารถติดต่อญาติได้ ศพจะถูกส่งไปที่วัดเพื่อทำการฝัง
“การที่จะเอาศพออกจากโรงพยาบาล ต้องมีญาติแสดงความเป็นญาติ โรงพยาบาลจึงจะอนุญาตให้นำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ถ้าไม่มีญาติจะให้ปอเต็กตึ๊งมารับไปฝังและไม่มีใครจัดงานอะไรให้”

มีญาติปฏิเสธที่จะเซ็นรับหรือเปล่า ?
“เรายังไม่เจอนะ ส่วนมากก็ตามญาติได้ แต่ว่าในกรณีที่ตามญาติไม่เจอก็เยอะอยู่นะครับ แล้วเราก็ต้องนำไปฝังเอง”

ช่องว่างของโครงการผู้ป่วยข้างถนน
ปัจจุบันโครงการผู้ป่วยข้างถนนรับหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงานระหว่าง ผู้ป่วยไร้บ้าน ทั้งผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตและเจ็บป่วยทางกาย เมื่อทีมงานประเมินเคสว่าเป็นผู้ป่วยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการประสานงานไปยังตำรวจเพื่อนำส่งไปยังโรงพยาบาลต่อไป

แต่ปัญหาประการหนึ่งมีว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีมาตรการนำส่งผู้ป่วยไร้บ้าน หรือแม้แต่โรงพยาบาลเอง บางครั้งก็ปฏิเสธที่จะรับรักษาผู้ป่วยไร้บ้าน

“ขั้นตอนในการดำเนินการบางครั้ง ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ หรือว่ายังไม่ตรงต่อโจทย์ของความเป็นผู้ป่วย อย่างเช่นว่า ผู้ป่วยถูกใส่กุญแจมือ ให้ผู้ป่วยนั่งอยู่หลังกระบะระหว่างทางไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลบางแห่งก็ยังปฏิเสธการรักษาให้ผู้ป่วยด้วย”

อย่างไรก็ดี นอกจากอุปสรรคในการส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลแล้ว การขาดความรู้ในเรื่องอาการทางจิตก็เป็นช่องว่างของภาคประชาชนกับการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน เช่น ประชาชนบางกลุ่มเข้าใจว่า แท้จริงแล้วผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตไม่ต่างไปจากคนปกติทั่วไป เพราะสามารถใช้ทักษะชีวิตบางอย่าง เช่น การซื้อสินค้าได้

“พอชาวบ้านไม่คิดว่าผู้ป่วยเป็นผู้ป่วย เขาก็จะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องช่วยอะไร ให้เขาใช้ชีวิตเร่ร่อนของเขาไปได้ อันนี้เป็นเรื่องทัศนคตินะครับ ส่วนเรื่องของการให้ความช่วยเหลืออย่างอื่น เช่น การพาไปโรงพยาบาล

“มันมีระบบแบบที่เจอผู้ป่วยแล้วแจ้งเสร็จได้เลย ถ้าให้นึกเห็นภาพหน่อยก็คือ ถ้าเราเจอผู้ป่วยฉุกเฉิน เรารู้เลยต้องโทร1669. แล้วมันจะไปตามระบบ แต่ยังไม่มีระบบที่คล้ายกันนี้สำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยข้างถนน หรือผู้ป่วยจิตเวชที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ”

จุดเริ่มต้นของโครงการผู้ป่วยข้างถนน
ก่อนที่โครงการผู้ป่วยข้างถนนจะเริ่มต้นขึ้นนั้น ทีมงานชุดเดียวกันนี้เป็นทีมงานของมูลนิธิกระจกเงาโครงการตามหาคนหายมาก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากทำโครงการตามหาคนหายจนมีข้อมูลที่มากพอจะเห็นภาพรวม ก็ปรากฏว่าคนหายส่วนหนึ่งเป็นคนหายที่มีอาการป่วยทางจิตประกอบอยู่ด้วย

นายสิทธิพล ชูประจงหัวหน้าโครงการผู้ป่วยข้างถนนกล่าวว่า

“... ก็มีข้อมูลชุดนึงว่า มันจะมีคนจำนวนนึงที่หายออกจากบ้านเป็นผู้ป่วยจิตเวช แล้วมาเร่ร่อนอยู่ข้างถนน เดินเร่ร่อนไป เร่ร่อนมา เราก็เลยคิดทำโครงการนี้ขึ้นมานะครับ เพื่อที่จะสร้างกระบวนการในการให้ความช่วยเหลือ รวมไปถึงการดูแลปัญหาต่างๆ ที่เราคิดว่าจะจัดการแก้ไขปัญหานี้ยังไงให้เป็นไปตามนโยบาย

“ดังนั้น ในช่วงแรกเราก็เลยเน้นไปที่ผู้ป่วยจิตเวช แต่พอทำไปทำมาก็ครบหมด มีทั้งผู้ป่วยทางกายและผู้ป่วยจิตเวชด้วย”

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลให้เกิดโครงการผู้ป่วยข้างถนนขึ้น กลับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอีกเหตุการณ์หนึ่ง นายสิทธิพล เล่าว่า มันคือเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยข้างถนนรายหนึ่ง ตั้งท้องและต้องคลอดลูกออกมาด้วยตัวเองข้างถนน

“ใช่... คลอดด้วยตัวเอง มันก็เป็นเรื่องนึงที่รู้สึกติดอยู่ในใจว่า คนมันไม่ควรมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คนควรที่จะคลอดลูกในโรงพยาบาล ทั้งแม่และเด็กควรที่จะได้รับการดูแลที่มีคุณภาพที่ดี ก็คืออยู่ในโรงพยาบาล ทำไมมันถึงกลายเป็นว่า คนๆ หนึ่งถึงต้องมาคลอดลูกที่ข้างถนน”

จากนั้นเป็นต้นมาโครงการผู้ป่วยข้างถนนก็เริ่มต้นขึ้น

ปัจจุบันโครงการผู้ป่วยข้างถนนยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ความเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ของโครงการสามารถติดตามได้ที่เพจเฟสบุ๊ค ‘โครงการผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงา’ หรือ @HumanOnStreet หรือหากพบผู้ป่วยข้างถนนสามารถติดต่อโครงการได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 096-078-4650

เอกสารอ้างอิง : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2267800
บุคคลสำคัญ : นายสิทธิพล ชูประจง หัวหน้าโครงการผู้ป่วยข้างถนน)

24 มกราคม, 2561

แมวมอง มองแมว

อยากลองเป็นแมวดูบ้าง ระหว่างที่กำลังจินตนาการตามที่คิด ก็เผลอหลับไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกที ก็มีความรู้สึกแปลกๆ แบบบอกไม่ถูก เรากลายเป็นแมวไปแล้วจริงๆ
13 เมษายน, 2561

โมงยามที่เปี่ยมชีวิตชีวา

วิลโก จอห์นสัน เป็นนักร้องและมือกีตาร์ชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการก่อเกิดขบวนการพังค์ในอังกฤษ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
19 เมษายน, 2561

ตำราเล่มใหญ่คือคนไข้

“พี่ทำงานแบบนี้ตั้งแต่ยังไม่มีการสั่งการ” ระยะเวลายาวนานที่พี่เกื้อ หรือคุณเกื้อจิตร แขรัมย์ ทำงานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ทำให้ได้พบคนไข้และญาติจำนวนมากซึ่งมีความต้องการต่างกัน