10 วิธี ร่วมพิธีศพและงานรำลึก ในวันที่ทุกคนต้องห่างไกลกัน

แปลจาก: WYG

ผู้แปล: ปุณยอาภา ศรีคิรินทร์ หมวด: ชุมชนกรุณา


 

10 วิธี ร่วมพิธีศพและงานรำลึก ในวันที่ทุกคนต้องห่างไกลกัน

เมื่อญาติพี่น้องต่างมีครอบครัวและแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง การที่พวกเขาไม่สามารถรวมตัวกันได้เมื่อมีพิธีศพจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่นัก เพราะฉะนั้น การจัดงานศพเสมือนจริงจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เช่นกัน แต่ในสถานการณ์ตอนนี้อาจต่างออกไป เราต่างได้ยินข้อห้ามและข้อจำกัดในการพบเจอกันด้วยเหตุผลทางสุขภาพและความปลอดภัยที่คอยย้ำเตือนทั่วทุกหนแห่ง ดังนั้น การร่วมพิธีศพหรืองานรำลึกต่างๆจึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนต่างตระหนัก

ด้วยลักษณะครอบครัวที่เล็กลง พี่น้องแยกครอบครัวออกไป เพื่อนสนิทมิตรสหายที่เคยใกล้ชิดกันต่างแยกย้าย แม้พวกเขาต้องการอยู่ในวันที่มีพิธีกรรมด้วยแต่ก็ไม่สามารถทำได้ พิธีศพแบบดั้งเดิมจึงถูกปรับเปลี่ยนไป จนมีบทความเกี่ยวกับเรืื่องนี้เผยแพร่ออกมามามายราวกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าว CNN ไปจนถึง the Atlantic

เมื่อมีการสูญเสียเกิดขึ้นในครอบครัว นอกจากความรู้สึก “โศกเศร้าที่แสนสามัญ” แล้ว ความรู้สึกสูญเสียที่ไม่มีพิธีศพตามที่คาดหวังไว้ก็เกิดขึ้นด้วย สำหรับใครก็ตามที่เคยเสียคนรักไปย่อมเข้าใจดีว่าอะไรคือสิ่งที่มีความหมายในพิธีศพ สำหรับผู้สูญเสียแล้ว น้อยคนนักที่จะกล่าวถ้อยคำที่ “เหมาะสม” ออกไปได้ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ แต่เมื่อพวกเขาได้มองเห็นผู้คนที่เขารักและมีความหมายต่อเขาอยู่ตรงนั้น เพียงเท่านี้ก็รู้สึกดีแล้ว ดังนั้น เราจะทำอย่างไร ในวันที่เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้

เรามีเคล็ดลับและไอเดียเล็กๆน้อยๆสำหรับนักอ่านที่สุดแสนอัศจรรย์อย่างพวกคุณ ไปดูกันเลย

10 วิธีล้ำค่าสำหรับพิธีศพและงานรำลึกในวันที่ทุกคนต้องห่างไกลกัน

 

1. จัดงานฌาปนกิจศพ หรือฝังศพไปก่อน และให้ผู้ร่วมพิธีพบเจอกันในภายหลัง

แม้ว่าเราจะแนะนำวิธีนี้ แต่โปรดจำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องรีบใช้วิธีนี้เลยหากคุณยังไม่พร้อม หลายครอบครัวต่างกล่าวภายหลังว่าพวกเขาต้องการใช้เวลาให้มากกว่านี้ก่อนจะใช้วิธีนี้ แม้ว่าในช่วงเวลานั้นพวกเขาจะรู้สึกโอเคแล้วก็ตาม ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องทำทันที ในช่วงนั้นหากคุณนึกอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับพิธีบ้างหละก็ ให้ทำเล็กๆน้อยๆก็พอ หรือทำแบบจำลองด้วยตัวเองไปก่อน และค่อยลงมือทำจริงๆเมื่อเจอสมาชิกในครอบครัวตัวเป็นๆในวันที่ทุกคนมารวมตัวกันได้อีกครั้งก็ได้ ซึ่งคุณอาจวางแผนวันได้เอง โดยอาจเลือกเป็นวันเกิดของคนที่คุณรักหรือวันสำคัญอื่นๆก็ได้

2. ใช้การสตรีมมิ่ง

วิธีนี้น่าจะดูชัดเจนที่สุด แม้ในวันที่ญาติพี่น้องไม่ได้อยู่กับคุณ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถใช้การสตรีมมิ่งหรือถ่ายทอดสดงานพิธีศพและให้พวกเขาเข้าร่วมได้ ตอนนี้มีบางครอบครัวใช้วิธีนี้แล้ว คุณสามารถเข้าไปดูโพสของพวกเขาได้ที่ "วิธีถ่ายทอดสดในพิธีศพหรืองานรำลึก" แต่หากคุณใช้แอพพลิเคชั่นอย่าง Facetime จนชำนาญแล้วก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ต้องแน่ใจว่าสมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมมองเห็นภาพ ได้ยินเสียง และอาจมีส่วนร่วมกันด้วยก็ได้ ซึ่งอาจต้องอาศัยการซักซ้อมและวางแผนให้แน่ใจก่อนเริ่มใช้จริงเสียก่อน

3. รวบรวมสมาชิกทุกคนให้มาอยู่ในพิธีแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆก็ตาม

แม้ว่าสมาชิกในครอบครัวบางคนไม่ได้อยู่ในพิธีจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถขับร้องบทเพลง อ่านหรือกล่าวถ้อยคำสรรเสริญได้ พวกเขาสามารถทำได้หากมีการเตรียมตัวที่ดี คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มอย่าง Zoom หรืออาจให้พวกเขาส่งภาพวีดีโอที่อัดไว้ล่วงหน้าสำหรับใช้สำหรับถ่ายทอดสดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำพิธี

4. รวบรวมภาพถ่ายมาใช้ในสไลด์โชว์

หนึ่งในส่วนที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในการไปร่วมพิธีศพคือการเห็นภาพถ่ายที่แสนวิเศษ ในยุคสมัยที่ภาพถ่ายของเรากลายเป็นดิจิตอล ภาพถ่ายที่คุณรวบรวมมาได้จะไปปรากฏบนหน้าจอของทุกคน ไม่ว่าพวกคุณจะร่วมพิธีศพด้วยกันในบ้านหรือในโบสถ์ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นพิธีศพของครอบครัวเล็กๆ หรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่่แยกขยายออกไป พวกคุณก็สามารถแชร์ภาพถ่ายดิจิตอลลงบนสไลด์โชว์ด้วยกันได้ และระหว่างการทำสตรีมมิ่งหากคุณลองใช้ฟังก์ชั่นสัมมนาออนไลน์ของ Zoom คุณจะสามารถแชร์หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังเล่นสไลด์โชว์ได้ด้วย วิธีนี้จะช่วยให้สมาชิกคนใดก็ตามที่เข้าร่วมสามารถเห็นทุกๆอย่างไปด้วยกันผ่านหน้าจอ

5. สร้างความทรงจำหรือถ้อยคำไว้อาลัยผ่านสไลด์โชว์

มีความทรงจำที่เปี่ยมไปด้วยรักและเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์จำนวนมากถูกแชร์ออกไปอย่างไม่เป็นทางการ จนกระทั่งวันนี้เรื่องราวเหล่านั้นถูกแชร์ลงในโซเชียลมีเดียแล้ว ลองรวบรวมความทรงจำและถ้อยคำดีๆจากสมาชิกในครอบครัวของคุณ โดยชวนให้พวกเขาแชร์ผ่านอีเมลล์หรือโซเชียลมีเดียล่วงหน้า ทำให้ราวกับว่าสไลด์โชว์นี้เป็นของพวกเขาเอง และอาจนำภาพพวกเขามาใส่ด้วยก็ได้ ระหว่างนั้น คุณสามารถใช้ฟิเจอร์ screen share เพื่อแชร์สไลด์โชว์นี้ให้กับสมาชิกครอบครัวที่อยู่ที่บ้านดู และหลังจากนั้นเมื่อคุณทำเสร็จแล้ว คุณยังสามารถแชร์ให้คนอื่นๆได้ชมทางโซเชียลมีเดียหรืออีเมลล์ได้อีกด้วย

6. ร้องเพลงและเล่นดนตรีด้วยกันแบบเรียลไทม์

หากเพียงเพราะพวกคุณต่างอยู่กันคนละที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถร้องเพลงด้วยกันได้ พวกคุณทำได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ได้ ลองใช้แอพพลิเคชั่น Zoom, Facetime หรือโปรแกรมอื่นๆดู (เคล็ดลับ: ใช้หูฟังและไมโครโฟนต่อกับคอมพิวเตอร์ และอย่าเพิ่งรับสายโทรเข้าขณะที่คุณกำลังร่วมขับร้องบทเพลง) หลังจากคำแนะนำนี้เพียง 1 สัปดาห์ก็มีผู้อ่านของเราคนหนึ่งแชร์ให้ฟังว่า “เราจัดงานศพคุณยายผ่านฟังชันก์ประชุมของ Zoom โดยให้มีลูก 4 คนของคุณยายและคู่สมรสของพวกลูกๆเท่านั้นที่เข้าร่วมพิธีศพได้ โดยมีบรรดาหลานๆหรือสมาชิกคนอื่นๆทั้งหมดออนไลน์อยู่ด้วย พวกเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมด้วยการร้องเพลงร่วมกัน (แม้ท่วงทำนองที่ต่างกัน) มีญาติบางคนกล่าวบทสวด และเล่นเปียโนด้วย” แม่ของผู้รับบริการรายนี้กล่าวว่ามันคือเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกครั้ง การได้ยินลูกหลานร้องเพลงมันช่วยปลอบโยนแม่ของเธอและบรรดาพี่น้องได้

7. บันทึกบทเพลงของครอบครัว

วิธีนี้เราอาจต้องการครอบครัวที่มีความสามารถทางดนตรีกับเวลาอีกสักเล็กน้อย พวกคุณสามารถร่วมกันรังสรรค์บทเพลงอันแสนซาบซึ้งแล้วสร้างมันออกมาเป็นคลิปวีดีได้โดยบันทึกวีดีโอของแต่ละคนไว้แล้วนำมาตัดต่อเข้าด้วยกัน วิธีนี้ไม่ต้องทำทุกคนก็ได้ ขอเพียงแค่คุณมีสมาชิกสักคนที่มีความสามารถทางดนตรีและรู้วิธีการตัดต่ออยู่บ้าง (ที่จริงแล้วมีการสอนวิธีตัดต่อวีดีโอมากมายบน Youtube ให้คุณได้ศึกษา) ถ้าคุณทำได้หละก็ คลิปวีดีโอนี้อาจสร้างแรงบันดาลใจให้อีกหลายครอบครัวเลยทีเดียว! (จงจำไว้เสมอว่าวิธีนี้อาจเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างยาก แต่มันจะทำให้คนที่เข้ามาดูทึ่งกับพรสวรรค์ทางดนตรีของครอบครัวคุณเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นตอนทำจงตั้งมาตรฐานให้สูงเข้าไว้ และถึงแม้ว่าครอบครัวของคุณจะไม่มีความสามารถทางดนตรีก็ไม่เป็นไร เพราะมันก็ยังคงเป็นวิธีที่สนุกและมีความหมายเหมือนกับที่เราตั้งใจไว้อยู่)

8. หนังสืออนุสรณ์งานศพเสมือนจริง

หากคุณใช้แอพลิเคชั่น Zoom หรือแพลทฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆที่มีฟีเจอร์สำหรับการแชทพูดคุยแล้วหละก็จะยิ่งง่ายดาย ให้ลองตั้งคำถามให้เพื่อนและญาติพี่น้องของคุณตอบ แน่นอนคุณต้องเริ่มจากถามชื่อเพื่อให้คุณรู้ว่ามีใครร่วมอยู่บ้าง เหมือนกับการใช้แขกลงสมุดเยี่ยมนั่นแหละ ในขณะที่แชทพูดคุยคุณสามารถขอให้พวกเขาเขียนเล่าอะไรก็ได้ที่คุณกำหนด เช่น ขอให้เล่าว่าพวกเขารู้จักกับผู้ตายได้อย่าง เล่าความทรงจำที่ประทับใจต่อผู้ตาย หรือบางสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากผู้ตาย เป็นต้น คุณต้องเช็คล่วงหน้าจนแน่ใจว่าโปรแกรมที่คุณใช้สามารถดาวน์โหลดข้อความออกมาได้แน่ๆและมีการจัดเก็บข้อความแชทที่พวกคุณคุยกันจนจบทั้งหมด

9. ขอให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆจัดพิธีกรรมเล็กๆด้วยตัวเองในวันและเวลาเดียวกัน

มันง่ายมากเพียงแค่พวกคุณต่างทำบางสิ่งในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น การสวดภาวนา หรือฟังเพลงโปรด คุณก็สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ แม้จะไม่ได้แชร์ให้เห็นภาพบนจนเลยก็ตาม

10. สร้างอนุสรณ์รำลึกเล็กๆในบ้านหรือสวนของคุณเอง

ลองเลือกบริเวณเล็กๆในบ้านของคุณเอง วางภาพถ่ายและต้นไม้ เพื่อสร้างเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ พื้นที่แห่งความหมายและสัญลักษณ์ คุณอาจทำได้ด้วยตัวเองหรือร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งๆกับเด็กๆ เพราะนี่เป็นโอกาสอันดีที่พวกเขาจะร่วมแชร์ความทรงจำและกล่าวคำอำลาต่อผู้ตาย เด็กๆอาจอยากวาดภาพ เขียนจดหมาย หรือสร้างสรรค์งานศิลปะอื่นๆเพื่อวางไว้ ณ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย

ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน จงจำไว้เสมอว่าว่ามันไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ การแสดงความอาลัย ความเคารพ และการรำลึก ไม่ได้เกิดขึ้นในครั้งนี้เพียงครั้งเดียว แต่มันเป็นสิ่งที่พวกคุณจะทำอีกหลายครั้ง ในอีกหลายรูปแบบเมื่อชีวิตคุณกำลังก้าวไปต่อไป แม้ว่าในวันนี้เราทุกคนจะไม่ได้พบเจอกันดังหวัง แต่เชื่อเถิดว่าเราะจะมีโอกาสพบกันอีกแน่นอน

แปลจาก https://whatsyourgrief.com/funerals-when-you-cant-be-together/?fbclid=IwAR1xXw9U4D1O_SItE0y8ckXKmQp2xn06MHsDTdRPwv7tzxJ4gL-ADwz9QUM

[seed_social]

10 มกราคม, 2561

กอด…เพิ่มพลัง สู้โรค

แปดปีก่อน ผู้เขียนได้ฟังเรื่องราวความมหัศจรรย์ของการกอดในงานเสวนาเครือข่ายช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้ายครั้งหนึ่ง ซึ่งจัดโดยเครือข่ายพุทธิการ่วมกับภาคีเครือข่ายช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้ายหลายโรงพยาบาล
18 เมษายน, 2561

ป่วยและพร้อมจะตาย แต่คนรอบข้างกลับทุกข์ใจ

คนส่วนใหญ่ยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ ทำให้ทุกข์ทั้งกายและใจ เขาคิดว่าไม่มีวิธีใดรักษาให้หายได้ มีแต่จะทำให้ความเจ็บปวดเพิ่มพูนขึ้น
4 เมษายน, 2561

เบาคลายความเจ็บปวด ด้วยนวดสัมผัสแห่งรัก

คนส่วนใหญ่อาจรู้อยู่แล้วว่า การนวดเป็นวิธีการผ่อนคลายร่างกายจากความเมื่อยล้าอย่างง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า นอกจากประโยชน์ทางด้านร่างกายแล้ว การนวดยังมีคุณค่าทางใจ