
ร่วมสนทนาเรื่องระบบนิเวศที่เอื้อต่อชุมชนกรุณากับคุณสุธีลักษณ์ ลาดปาละ และคุณพันธกานต์ อินต๊ะมูล ทีมงานชุมชนกรุณาในภาคเหนือที่สนใจเรื่องการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง และการอยู่ดีและตายดี ที่กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้ขับเคลื่อนชุมชนกรุณาควรให้ความสำคัญคือ การสร้างระบบนิเวศที่จะช่วยให้ชุมชนกรุณาแข็งแรง โดยคนที่มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนคือญาติหรือคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนต่างจังหวัด คนกลุ่มควรได้รับการสนับสนุนดูแลทั้งด้านจิตใจและความเป็นอยู่ เพื่อให้พร้อมที่จะร่วมสร้างสังคมที่มีความกรุณาต่อกัน
“ระบบนิเวศเพื่อการขับเคลื่อนชุมชนกรุณา” คือสังคมที่เกื้อกูลต่อการสร้างพื้นที่แห่งความกรุณา และการอยู่ดีตายดี ผ่านการช่วยเหลือกันตามศักยภาพของตนเอง โดยประเด็นแรกที่ต้องคำนึงคือ “การอยู่ได้” เนื่องจากชุมชนกรุณาประกอบด้วยผู้คนที่มีความหลากหลาย หากมีเพียงผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแล คงยากที่จะนำไปสู่การอยู่ดีและตายดีได้ การสนับสนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กลับมาอยู่ในพื้นที่จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยดูเรื่องมิติทางสังคมและเศรษฐกิจควบคู่กันไป เพื่อสร้างความสามารถในการอยู่รอดในพื้นที่ เป็นการเสริมความเข็มแข็งให้ระบบนิเวศของชุมชน แล้วท้ายที่สุดจึงขยับเข้าสู่เป้าหมายคือ การอยู่ดีและตายดี
การเล็งเห็นความสำคัญในการดูแลคนรุ่นใหม่ที่กลับมาบ้านเกิดเพื่อดูแลครอบครัว เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณสุธีลักษณ์ที่ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด แล้วต้องรับมือกับความไม่มั่นคงภายในใจ การปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่และสภาวะต่างๆ โดยเฉพาะภาวะทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ไม่ได้ ต้องกลับไปทำงานในเมืองใหญ่ เธอจึงเห็นความจำเป็นต้องมีพื้นที่ให้คนกลุ่มนี้ได้ระบายความทุกข์ จึงประยุกต์ใช้เครื่องมือของ Peaceful Death เช่น ไพ่ไขชีวิต ช่วยในเรื่องการปรับตัว และได้ผลตอบรับที่ดี จึงขยายพื้นที่การรักษาใจออกไปในวงกว้างขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนกรุณา จะได้เรียนรู้แนวคิดและเครื่องมือที่จะนำไปปรับใช้กับครอบครัวและคนในชุมชนต่อไป
เธอจึงเริ่มต้นสร้างพื้นที่แห่งความกรุณาโดยมีเป้าหมายว่าจะทำให้คนรุ่นใหม่กลับมาอาศัยอยู่ในพื้นที่เพื่อดูแลคนในชุมชน จึงสร้างระบบนิเวศเพื่อให้คนอยู่ได้ โดยการเกื้อหนุนทางเศรษฐกิจและสร้างพื้นที่ให้คนในชุมชนมาปรับทุกข์ รับฟังกันอย่างใส่ใจ เช่น วงสุนทรียสนทนา โดยการเปิด “มีใจสเปซ” ตลาดขนาดเล็กที่จัดขึ้นในช่วงวันเสาร์-วันอาทิตย์ เป็นช่องทางให้ผู้คนนำสินค้าของตนมาจำหน่าย เพื่อช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ และมีกิจกรรมพูดคุยเพื่อสร้างพื้นที่ในการดูแลใจกันและกัน เพราะการกลับมาดูแลพ่อแม่ที่ป่วยไม่ใช่เรื่องง่าย และการปรึกษากับพี่น้องหรือญาติที่ประสบปัญหาเดียวกันและไม่มีเวลารับฟังมากพอ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป มีใจสเปซยังสร้างสรรค์ช่องทางทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อขยายระบบนิเวศของชุมชนกรุณาให้กว้างขึ้น เช่น “กิจกรรมปันใจ” ที่เรียนรู้มาจากชุมชนกรุณาขะไจ๋ เป็นการนำสิ่งของสภาพดีที่ได้รับจากการแบ่งปัน มาหาทุนเพื่อใช้ทำกิจกรรม โดยกิจกรรมในแต่ละครั้งจะมีผู้คนหน้าเก่าหน้าใหม่แวะเวียนมาเข้าร่วมตลอด จึงช่วยเชื่อมโยงให้กิจกรรมดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนชุมชนกรุณาได้คือ การทำให้คนในชุมชนแข็งแรงจากภายใน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่จำต้องกังวลเรื่องสภาวะทางเศรษฐกิจมากนัก มีพื้นที่รับฟังความทุกข์ และมีความมั่นคงทางใจ จนมีพลังใจเผื่อแผ่ความกรุณาให้แก่ผู้อื่น เพราะหากไม่มีกลุ่มคนเหล่านี้ในชุมชน ลำพังการผลิตกระบวนกรชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยระยะท้ายเพื่อการอยู่ดีและตายดี จะเกิดขึ้นอย่างมีคุณภาพได้ยาก การร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนชุมชนกรุณา จะช่วยให้การดูแลผู้ป่วยระยะท้ายดำเนินได้ด้วยดี
คุณสุธีลักษณ์หวังว่าการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อชุมชนกรุณา จะเปิดโอกาสให้ผู้คนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานจิตอาสา เพื่อสานต่อและปูทางสู่การเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ชุมชนกรุณาในแบบของตนเอง เพียงแค่ชักชวนให้ทุกคนเกื้อกูลกันและกันผ่านสิ่งที่ตนเองทำได้ และส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ก็เท่ากับสร้างชุมชนกรุณาแล้ว
หากต้องการคำแนะนำเรื่องชุมชนกรุณา ติดต่อได้ทาง ชุมชนกรุณา ขะไจ๋ CoCo ขะไจ๋ (https://www.facebook.com/compassioncommunitykajai) และผู้สนใจพื้นที่สร้างสรรค์มีใจสเปซ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Mee Jai Space (https://www.facebook.com/MeeJaiSpace/?ref=page_internal)
วันที่ออกอากาศ: 18 เมษายน 2563
ผู้เรียบเรียง: สุรพิน อยู่สว่าง