parallax background
 

แผนกให้กำลังใจ

ผู้เขียน: เอกภพ สิทธิวรรณธนะ หมวด: ในชีวิตและความตาย


 

“สาธุ...”  เสียงพยาบาลนับยี่สิบคนเปล่งคำอนุโมทนาพร้อมยกมือขึ้นประนม เป็นเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขที่อบอวลอยู่ในใจของทุกคน

วันนี้มีการประชุมประจำเดือน ดังเช่นทุกๆ เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice) หรือที่เรียกติดปากในหมู่พยาบาลกลุ่มดังกล่าวว่า “คอป” (COP) งานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและประคับประคองของโรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่เมื่อพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ให้การดูแลผู้ป่วยจะแนะนำตนเองว่ามาจาก “แผนกให้กำลังใจ”

จุดเริ่มต้นของชุมชนนักปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองเกิดขึ้นในปี 2553 โดยการนำของคุณเกื้อจิตร แขรัมย์ พยาบาลวิชาชีพประจำโรงพยาบาลแห่งนี้ หลังจากเธอเริ่มปฎิบัติงานเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและประคับประคองได้ ๒ ปี จนบัดนี้ได้ขยายเครือข่ายไปสู่โรงพยาบาลทุกอำเภอใน จ.บุรีรัมย์ และกำลังจะขยายไปสู่แต่ละอำเภอจังหวัดอื่นๆ ด้วย 

คอปประกอบไปด้วยพยาบาลจากหอผู้ป่วยต่างๆ เช่น เคมีบำบัด ไอซียู อายุรกรรม ศัลยกรรม กระดูก กุมารเวช สูตินรีเวช หรือแม้แต่ห้องคลอด ร่วมกันเรียนรู้ที่จะดูแลจิตใจของผู้ป่วย โดยไม่ได้เน้นเฉพาะผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น ด้วยความจริงที่ว่า “จิตใจสัมพันธ์กับร่างกาย” แม้การอนุญาตให้ผู้ป่วยรอคลอดเดินออกมาถามแม่ที่มาเฝ้าว่าได้กินข้าวหรือยัง เพื่อลดความกังวลของเธอก็สามารถลดความปวดช่องคลอดได้โดยไม่ต้องใช้ยา

การประชุมในช่วงเช้าเริ่มจากการสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยอย่างง่าย ตามด้วยการภาวนาทำสมาธิเป็นเวลา ๑๐ นาที ก่อนจะเริ่มประชุมในเนื้อหาสาร

ครั้งนี้มีสมาชิกใหม่ท่าทางขวยเขินถูกคะยั้นคะยอให้แนะนำตัว “วันแรกก็อย่างนี้แหละ อีกหน่อยให้วางไมค์จะไม่ยอมวาง” ประธานในที่ประชุมพูดหยอกอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเริ่มวาระแจ้งเพื่อทราบ และตามด้วยกิจกรรมชั่วโมงแห่งความสุข หรือ Happy Hours

 

กิจกรรมนี้พยาบาลทุกๆ คน ได้ผลัดกันมาเล่าประสบการณ์จากการทำงานด้วยหัวใจในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เรื่องราวที่ประทับใจ หรือสะเทือนใจโดยไม่จำกัดเวลา มีพยาบาลคนหนึ่งเล่าเรื่องผู้ป่วยเด็กซึ่งเป็นคนไข้ชั่วคราวที่ได้พบกับทีมดูแลผู้ป่วยฯ ด้วยความบังเอิญ เด็กน้อยได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่า “เป็นโรคที่รักษาไม่หาย วันหนึ่งก็จะนอนหลับตายไป และต้องใส่อ็อกซิเจนตลอดเวลา” ญาติต้องการซื้ออ็อกซิเจนให้ผู้ป่วยจาก รพ.บุรีรัมย์ซึ่งเป็นทางผ่าน ทีมคอปได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมบ้าน หาวิธีลดค่าใช้จ่ายที่ต้องซื้อถังอ็อกซิเจนทุกเดือน แต่ด้วยการติดตามอย่างใส่ใจ สอดแทรกการเยี่ยมด้วยการให้หนังสือธรรมะ เกมธรรมะ โดยไม่ยัดเยียด เด็กน้อยเข้าใจความกลัว จนกล้าที่จะลดการใช้อ็อกซิเจนจากสัปดาห์ละ 3 ถัง เป็นสามเดือนหนึ่งถังได้ และยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน

พยาบาลเล่าด้วยความเบิกบาน มีสีหน้าเจือความสุขเช่นเดียวกับคนฟัง เมื่อเล่าจบทุกคนยกมือประนมสาธุ จากนั้น คุณเกื้อจิตรก็จะให้ความเห็นเพิ่มเติม เป็นเช่นนี้ไปจนครบทุกคนในกิจกรรม “ชั่วโมงแห่งความสุข” 

ในภาคบ่าย พยาบาลในคอปจะแยกย้ายลงเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชน แล้วกลับมาแลกเปลี่ยนสะท้อนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการลงเยี่ยมผู้ป่วยที่ผ่านมา พยาบาลแต่ละคนจะต้องทำบันทึกประสบการณ์และการเรียนรู้จากการทำงานดูแลตามสายงานของตน การประชุมมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีเสียงหัวเราะดังขึ้นตลอดการประชุมทั้งวัน อารมณ์ขันและความสุขจากการได้ฟังเรื่องราวดีๆหล่อเลี้ยงพลังใจของพยาบาลในแผนกให้กำลังใจ ทั้งในวันนี้ และการทำงานดูแลผู้ป่วยอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

 

การประชุมคอปประจำเดือนเป็นพื้นที่สนับสนุนคนทำงานดูแลจิตใจผู้ป่วยทุกแผนก รวมถึงช่วยจัดการและถ่ายทอดความรู้ที่มาจากประสบการณ์การปฏิบัติงานจริง เป็นเวทีพัฒนาศักยภาพคนทำงาน ที่สำคัญคือการสร้างความสุขและตระหนักในคุณค่าของวิชาชีพพยาบาล คุณเกื้อจิตรกล่าวเสริมว่า “คนอื่นอยากทำบุญมากแต่ไม่มีโอกาส แต่พยาบาลอย่างเรามีโอกาสดูแลผู้ป่วยทุกวัน มีโอกาสสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ได้ทุกๆ วัน” 

กลุ่มพยาบาลดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและประคับประคองไม่ได้ทำงานเพียงจัดประชุมประจำเดือนเท่านั้น แต่ยังหาโอกาสสนับสนุนการทำงานของตนเองด้วยการเพิ่มเติมความรู้ที่จำเป็น เช่น การจัดการความปวดรูปแบบต่างๆ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการฟัง การดูแลผู้ป่วยแนวพุทธ นอกจากนี้ยังจัดให้พยาบาลในคอปเข้าค่ายปฏิบัติธรรมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในจิตใจ ลดอัตตาตัวตนที่เป็นอุปสรรคต่อการดูแลผู้ป่วย เป็นจิตอาสาเรียนรู้วิถีการดูแลผู้ป่วยที่อโรคยาศาล วัดคำประมง เป็นต้น

ทีมพยาบาลงานดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง รพ.บุรีรัมย์ ยังทำงานเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลชุมชนอื่นๆ ทั่วทุกตำบลในจังหวัด ด้วยการเผยแพร่แนวคิดและทักษะการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง ทีมงานจะมีฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์แพทย์และพยาบาลที่ทำงานดูแลผู้ป่วยประคับประคองเพื่อประโยชน์ในการส่งต่อผู้ป่วยให้ได้รับความดูแลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังจัดเผยแพร่แนวคิดด้วยเทคนิคการเล่าประสบการณ์การดูแลแบบประคับประคองในโรงพยาบาล เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานและกระแสการทำงานเยียวยาทางจิตใจควบคู่ไปกับการดูแลทางกาย

คอปงานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและประคับประคองไม่ได้ทำงานเฉพาะหมู่พยาบาลในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังทำงานร่วมกับเครือข่ายจิตอาสาที่เป็น (หรือเคยเป็น) ผู้ปวย จิตอาสาเหล่านี้มีทักษะในการสื่อสาร เยียวยา ให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยเพราะมีประสบการณ์ร่วม ตลอดจนทำงานร่วมกับเครือข่ายพระสงฆ์ ที่จะสนับสนุนการเยียวยาทางจิตวิญญาณในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

การทำงานของชุมชนนักปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง รพ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่จะช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ป่วย การทำงานของแผนกให้กำลังไม่ได้ราบรื่น บางครั้งต้องพบเจอเงื่อนไขอุปสรรคที่มาลดทอนกำลังใจของคนทำงานเสียเอง แต่เชื่อว่าความสุขที่สัมผัสได้จากการดูแลเพื่อนมนุษย์ด้วยหัวใจ จะเป็นพลังหล่อเลี้ยงให้ทีมงานฝ่าฟันและก้าวข้ามไปได้ในที่สุด

[seed_social]

20 เมษายน, 2561

มหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ เปิดสอนปริญญาเอกด้านการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) เป็นแห่งแรกของโลก

มหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ (Lancaster University) เปิดรับนักศึกษาปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการดูแลแบบประคับประคองเป็นแห่งแรกของโลก จำนวน ๑๖ คน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓
20 เมษายน, 2561

ดูแลใจด้วยงานศิลปะ

งานดูแลผู้ป่วยระยะท้ายหรือผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เป็นงานหนักและต่อเนื่อง ต้องอาศัยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและเวลา เพราะผู้ป่วยบางรายอาจต้องดูแลตลอด ๒๔ ชั่วโมง ดังนั้นผู้ดูแลทั้งที่เป็นบุคลากรสุขภาพหรือเป็นญาติผู้ป่วย ต่างต้องเหนื่อยล้า ประสบภาวะเครียด ท้อแท้ หงุดหงิดรำคาญใจ
22 เมษายน, 2561

เมื่อกลิ่นเหล้าจาง

ภาพของลุงป้าที่จับคู่กันอยู่ในห้องผู้ป่วยสามัญ คนหนึ่งนอนป่วยบนเตียง อีกคนก็อยู่โยงเฝ้าไข้อย่างโดดเดี่ยวไร้ลูกหลานญาติมิตร น่าจะเป็นภาพที่พบเห็นได้ไม่ยาก มีบางคู่อยู่กันจนตายพรากจากกัน