Blindside : ปีกแห่งความกรุณาใส่ใจ (caring)
และความมีคุณภาพ (efficiency)

ใครๆ ก็เรียกผมว่า “บิ๊กไมค์” ผมไม่ชอบเลย แต่ละวันที่ผมเดินถือถุงเสื้อผ้าเพื่อหาที่พักพิงและอบอุ่นพอ ผมเดินไปไหนก็มีแต่คนหลีกหนี แม่ของผมติดโคเคน บ้านก็เหมือนไม่เป็นบ้าน รอบบ้านผมเต็มไปด้วยแก็งค์อันธพาล ยาเสพติด ความรุนแรงรอบตัว ผมไม่ชอบเลย และเมื่อผมไปโรงเรียน ผมก็ฟังครูพูดอธิบายเรื่องที่สอนแบบไม่รู้เรื่องเลย ผมรู้ว่าการศึกษาสำคัญมากสำหรับผม แต่ทำยังไงได้เพราะผมเรียนไม่รู้เรื่อง สีหน้าที่ครูให้กับผมคือ สีหน้าที่หมดอาลัยตายอยากกับผม คำดุด่า ตำหนิที่ผมเรียนไม่รู้เรื่อง สิ่งที่ผมทำได้ คือ พยายามที่จะมีชีวิต ผมรู้ว่าผมต้องการความช่วยเหลือมากๆ ผมไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปหาใคร ใครก็ได้ ช่วยผมที

ไมเคิล ออร์ (ไม่ได้กล่าว)

Blindside เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มผิวสี ไมเคิล ออร์ เขาอาศัยอยู่ในอีกด้านหนึ่งของเมืองเมมฟิส เป็นด้านเสื่อมโทรม ถิ่นที่อยู่อาศัยของคนผิวสี การศึกษาและโอกาสในชีวิตมีน้อย ปัญหายาเสพติดและการใช้ความรุนแรงเป็นเหมือนผ้าคลุมของพื้นที่แห่งนี้ พ่อของไมเคิลหายสาปสูญ แม่เป็นทาสยาเสพติด ไมเคิลมีพี่น้องหลายคนแต่ก็กระจัดกระจาย เพราะพ่อแม่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ไมเคิลเป็นเด็กในความอุปกาะะของหน่วยงานรัฐ แต่ไมเคิลก็เลือกเดินออกมาพึ่งพิงตนเอง ไร้คนดูแล ไม่มีเสื้อผ้าหรือสุขอนามัยที่ดีนัก

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อไมเคิล ได้มาพบพานกับครอบครัวทูฮี ผู้ซึ่งอยู่อีกด้านของเมืองเมมฟิส เป็นย่านของคนผิวขาว ร่ำรวย คุณนายลีก แอน ทูฮี เห็นวัยรุ่นผิวสีเดินฝ่าความหนาว เธอสอบถามว่า เขาจะไปไหน ไมเคิลตอบว่าเขาจะไปที่ยิมของโรงเรียนเพื่อหลบความหนาว เธอทราบว่าเด็กคนนี้ไม่มีที่พักพิง ยามค่ำคืนเช่นนี้โรงเรียนปิดแล้ว ความเมตตากรุณาทำให้เธอเลือกที่จะเชื่อและให้โอกาสกับเด็กหนุ่มคนนี้ด้วยการเชิญชวนมาให้พักอาศัยที่บ้านของเธอ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตทั้งของไมเคิลและครอบครัวนี้

จะเนื่องด้วยความเอ็นดู ความเมตตากรุณาของครอบครัวทูฮี ความซื่อสัตย์สุจริตและใฝ่ดีของไมเคิล ออร์ องค์ประกอบปัจจัยเหล่านี้ได้เอื้ออำนวยให้ไมเคิล ออร์ได้มาอยู่ในอุปการะของครอบครัวนี้ ความรัก ควาเมตตาในรูปของการอุปถัมภ์เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย อาหาร การสนับสนุนด้านการศึกษา และที่สำคัญการปฏิบัติต่อไมเคิลในฐานะเพื่อนมนุษย์ ทำให้ไมเคิลรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึงของครอบครัว ความรัก กำลังใจและการสนับสนุนทำให้ไมเคิล มีความหวังกับโรงเรียนมากขึ้น โชคดีกับที่ในโรงเรียนก็มีคุณครูที่มองเห็น

ศักยภาพ ความถนัดและพรสวรรค์ของไมเคิล ตลอดเรื่องราวเราจึงเห็นเส้นทางชีวิตของวัยรุ่นอเมริกันผิวสีคนหนึ่งที่ได้โอกาสในชีวิต และเลือกที่ขวนขวายเพื่อให้สมควรกับการได้โอกาสนั้น ความโดดเด่นด้านร่างกาย ทักษะกีฬาและการเคลื่อนไหวเอื้อให้ไมเคิลสามารถใช้ความได้เปรียบของตัวเองพาไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้

ความท้าทายคือ ไมเคิลจะต้องสอบผ่าน ทำเกรดจาก 1.76 ให้ถึง 2.50 จึงจะได้รับโอกาสในการได้ทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย วิชาเรียงความคือ ด่านสำคัญที่ไมเคิลต้องทำให้ได้คะแนนมากพอเพื่อทำเกรดให้ถึงตามข้อกำหนด พร้อมกับการดิ้นรนค้นหาหลักฐานที่ยืนยันตัวตนของไมเคิล ออร์ เนื่องมาจากครอบครัวเดิมที่แตกสลาย และแรงเสียดทานที่ครอบครัวทูฮีต้องเผชิญจากสังคมรอบข้างที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา สำนึกของการเหยียดผิวเป็นประเด็นใหญ่ของสังคมอเมริกันที่ยังดำรงอยู่ สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ความเข้มแข็งที่จะยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง อาจรวมถึงความมีฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวทูฮีที่ทำให้การกระทำเพื่อช่วยเหลือไมเคิลเกิดขึ้นไม่ยากนัก

บริบทสังคมที่แวดล้อมชีวิตของไมเคิล ฉากชีวิตของครอบครัวทูฮีเราจะเห็นภาพชีวิตของอเมริกันดรีม ครอบครัวเปี่ยมสุข ฐานะร่ำรวย การทำหน้าที่ของพ่อแม่ การอบรมสั่งสอน การรับฟังลูกๆ และภาพชีวิตของย่านเสื่อมโทรมที่ยาเสพติดคือ แหล่งพักพิงและคลายทุกข์ แก็งค์อันธพาลที่ทำให้สมาชิกแก็งค์รับรู้ถึงการมีพวกพ้อง มีตัวตน การไม่เข้าร่วมแก็งค์ของไมเคิล จึงสะท้อนถึงคุณภาพการเลือกใช้ชีวิตที่เข้มแข็งของไมเคิล ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มแก็งค์อันธพาล ฉากสนทนาที่ผู้เขียนสนใจคือ แม่ของไมเคิลสื่อสารความรักและปกป้องลูกชาย คือ ทุกครั้งที่เธอเสพโคเคน เธอจะให้ลูกชายหลับตาเพื่อไม่ต้องรับรู้สิ่งที่แม่กระทำ ความผูกพัน ความรักของไมเคิลที่มีต่อแม่ ด้วยการพยายามหนีออกจากบ้านอุปถัมภ์พักพิงเพื่อมาดูแลแม่ ผู้เขียนมองว่าสำนึกความรัก และการปกป้องเท่าที่แม่จะทำให้กับลูกชายของตน ความรักที่ไมเคิลมีต่อแม่ ภายใต้ความเปราะบางที่เป็นอยู่ ถือเป็นทุนชีวิตที่สำคัญและหล่อเลี้ยงชีวิตไมเคิลให้ก้าวหน้าในทางสร้างสรรค์ได้

ฉากชีวิตไมเคิลในโรงเรียนทำให้เห็นการทำงานของคุณครูในโรงเรียนมัธยม บางคนเลือกที่จะใส่ใจ ส่งมอบความปรารถนาดีด้วยการให้โอกาส อดทนที่จะช่วยเหลือไมเคิลมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนด้วยการให้เวลาอธิบายเพิ่มเติม เลือกที่จะรับฟัง ฟูมฟักศักยภาพของไมเคิล แทนการตัดรอน สำหรับนักเรียนบางคน พวกเขาเพียงต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจึงสามารถเดินทางต่อได้ ขณะที่บางคนอาจไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือมากนัก ไมเคิลมีศักยภาพในตัวพอสมควร และต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม ในอีกด้านคุณครูบางท่านก็เลือกที่จะเข้มงวดในคุณภาพความสามารถของไมเคิลด้วยการยืนยันว่า ไมเคิลจะได้เกรดที่ต้องการก็ต่อเมื่อไมเคิลสามารถเขียนเรียงความได้คุณภาพตามมาตรฐาน และเมื่อไมเคิลทำได้ เกรดที่ได้จึงเป็นรางวัลที่แท้จริง

เราทุกคน และชุมชนที่มีชีวิต เราต่างต้องการความกรุณาใส่ใจ (caring) และความมีประสิทธิภาพภาพ (efficien-cy)ผ่านทั้งการให้ และการรับ ความต้องการทั้งสองนี้เป็นเหมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิต และชุมชน

ความกรุณาใส่ใจ (caring) : ผ่านการอุปถัมภ์ชีวิตไมเคิล สนับสนุนการศึกษา การมีอนาคตที่ดี การดูแลด้านการเรียนรู้ การใส่ใจต่อชีวิตและความปลอดภัยที่ไมเคิลมีต่อครอบครัวทูฮี ต่อเพื่อนร่วมทีม

ความมีคุณภาพ (efficiency) : การเข้มงวดเรื่องคุณภาพการเรียน การได้เกรดจากความสามารถ ความสามารถด้านกีฬาของไมเคิล รวมถึงการมีความสามารถในการควบคุมชีวิตของตนเองให้เดินในทางที่สร้างสรรค์ได้

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงของไมเคิล ออร์ ภายใต้ความยากลำบากในชีวิตและการสนับสนุนของครอบครัวทูฮี ไมเคิลประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอาชีพ ที่มาของของชื่อเรื่อง Blind-side ด้านมืด ด้านที่มองไม่เห็นก็เนื่องมาจากบทบาทตำแหน่งผู้เล่นของไมเคิลที่ทำหน้าที่อุดช่องโหว่ ช่องว่างให้กับเพื่อนร่วมทีมที่ทำหน้าที่สร้างคะแนนได้มีโอกาสทำแต้มได้ เช่นเดียวกับชีวิตไมเคิลที่เข้ามาเติมเต็มให้ครอบครัวทูฮีได้เรียนรู้ที่จะก้าวข้ามความรัก เผื่อแผ่กับผู้ยากไร้ ได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้และแบ่งปัน รวมถึงการมีไมเคิลเข้ามาช่วยเติมเต็มความปลอดภัย ความเป็นครอบครัวที่มีความกรุณาต่อกัน

ฉากเริ่มต้นของเรื่องราว คำขวัญจากป้ายประกาศหน้าโรงเรียน “มีมนุษย์ สิ่งนี้จึงเป็นไปได้ มีพระเจ้า ทุกสิ่งจึงเป็นไปได้” ผ่านการกระทำด้วยความรัก ความศรัทธา และความหวัง จึงเป็นเหมือนแก่นของเรื่องราวที่ทุกสิ่งดำเนินไปภายใต้ความเป็นปัจจัยสนับสนุน ชุมชนกรุณาจึงเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุปัจจัยการมีความรัก ความศรัทธา และความหวังร่วมกัน ผ่านรูปธรรมการมีความกรุณาใส่ใจที่เอื้อเฟื้อต่อกัน พร้อมกับการประพฤติตัวดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพที่คู่ควรกับความกรุณาเอื้อเฟื้อนั้น เรื่องราวไมเคิล ออร์ และครอบครัวทูฮีในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการเรียนรู้เพื่อสร้างชุมชนกรุณาและการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่อาศัยปีก 2 ข้างที่ร่วมสนับสนุน คือ ความกรุณาใส่ใจ และความมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ

ข้อมูลอ้างอิง
Lectures and Concepts , Thanks for MIKI Kastan , Certified nonviolence trainer, Juipur India , Jan 6-13, 2018
Concepts and workshop, Thanks for Katherine singer, Assessor from Intensive international CNVC ,chengdu, china Sep 28-Oct7,2018
ถอดรหัสความคิด ปิดจุดบอดในชีวิต กับภาพยนตร์ The Blindside

ภาพประกอบ
http://www.eternallifestyle.com/living/real-story-behind-blind-side