ภาวะผู้นำร่วมในเครือข่ายชีวาภิบาลของประเทศไทย: รายงานการศึกษาเบื้องต้น

โดย สุนีย์ สถาพร

ภาวะผู้นำร่วม เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการสร้างความร่วมมือของเครือข่ายชีวาภิบาลของประเทศไทย งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานของผู้นำในภาคีเครือข่ายด้านการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (palliative care) รวมถึงการวิเคราะห์บริบท ปัญหา และอุปสรรคในระบบชีวาภิบาล และทัศนคติของผู้นำต่อแนวคิดภาวะผู้นำร่วม ตลอดจนเสนอแนวทางสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายความร่วมมือข้ามองค์กร ศึกษาโดยการสัมภาษณ์ผู้นำรายบุคคลจำนวน 38 คนจาก 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ระบบบริการสุขภาพ ภาคประชาสังคม และผู้นำทางจิตวิญญาณโดยใช้กรอบภาวะผู้นำร่วมในระบบสุขภาพและสังคมของไอร์แลนด์เหนือ

งานศึกษาพบว่า การสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายชีวาภิบาลของไทยจะเข้มแข็งได้ต้องมีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การเปิดเผยแรงจูงใจ วาระส่วนตัวและองค์กรเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างความไว้วางใจซึ่งเป็นที่มาของการสร้างความร่วมมือ วิธีการสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันที่ได้ผลคือการจัดโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้สนับสนุนศักยภาพการทำงาน และการนำเสนอผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงนโยบายอันเป็นผลจากการทำงานเครือข่าย

ข้อเสนอแนะ:

1.พัฒนาโครงสร้างการบริหารจัดการร่วม: สร้างกลไกที่เอื้อให้เกิดการตัดสินใจร่วมกันระหว่างองค์กรในเครือข่าย โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่มทำงานแบบข้ามองค์กร (cross-sectoral teams) ที่มีบทบาทชัดเจนในการกำหนดเป้าหมายและติดตามผลลัพธ์ของการดำเนินงาน

2. ส่งเสริมการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ทำงาน: จัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ระหว่างผู้นำในเครือข่าย พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมภาวะผู้นำร่วม เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้นำในทุกระดับ

3. สนับสนุนเจตจำนงทางการเมืองให้ชีวาภิบาลเป็นวาระแห่งชาติ: นโยบายระดับชาติเพื่อการนำทรัพยากรภาครัฐมาสนับสนุนการทำงาน พัฒนาทางเลือกในการดูแลสุขภาพชีวิตช่วงท้าย รวมทั้งแก้ไขอุปสรรคในการใช้งบประมาณให้เกิดผลลัพธ์ แก้ไขระบบจัดการให้เอื้อต่อการร่วมมือมากขึ้น

4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในงานชีวาภิบาลจากชุมชน: เปิดโอกาสให้ชุมชนและท้องถิ่นมีบทบาทในการกำหนดทิศทางและสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง