การใช้ประโยชน์จากกองทุนท้องถิ่น เพื่อวางแผนการดูแลล่วงหน้าในชุมชน

ผู้เขียน: ดิเรก ชัยชนะ

สนใจอยากทำกิจกรรมส่งเสริมการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าแต่ไม่มีทุน น่าจะเป็นหนึ่งประเด็นที่จิตอาสาหรือกลุ่มคนที่ต้องการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเคยประสบปัญหา บทความนี้เรียบเรียงเนื้อหาจากวงคุยชีวาภิบาล Sharing Practices ครั้งที่ 2 เรื่อง “การใช้ประโยชน์จากกองทุนท้องถิ่นเพื่อวางแผนการดูแลล่วงหน้าในชุมชน” โดยมีวิทยากรผู้มีประสบการณ์ร่วมแบ่งปันได้แก่ คุณดารุณี สุดาอิ้ง (จ๊ะเอ๋) เทศบาลเมืองน้ำดำ จ.กาฬสินธุ์ คุณสุคนธ์ ชัยชนะ (แจด) ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ พะตง จ.สงขลา คุณถิรนันท์ ถิรสิริสิน (เตย) ชุมชนกรุณาปทุมวัน จ.กรุงเทพมหานคร และคุณอาทิตย์ วสุรัตน์ (แมน) ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มภารกิจการจัดหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น สปสช. เนื้อหาได้นำเสนอว่ากองทุนท้องถิ่นคืออะไร มีขั้นตอนและเงื่อนไขการขอใช้กองทุนอย่างไร รวมถึงข้อแนะนำและประสบการณ์ของผู้ใช้กองทุนที่เป็นประชาชนทั่วไป องค์กรหรือหน่วยงาน รวมถึงจากผู้ดูแลกองทุนท้องถิ่นในระดับเทศบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลกองทุนหลัก ประกันสุขภาพท้องถิ่น สปสช. จากส่วนกลาง

กองทุนท้องถิ่น

กองทุนท้องถิ่นในที่นี้หมายถึงกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) เกิดขึ้นจากหลักการสำคัญภายใต้มาตรา 47 ของพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่กำหนดความร่วมมือขององค์กรปกครองท้องถิ่นกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการบริหารจัดการกองทุนและสนับสนุนให้องค์กร หน่วยงาน หรือประชาชนร่วมดำเนินกิจกรรมและโครงการสร้างเสริมสุขภาพในพื้นที่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ กลุ่มวัยทำงาน และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง กองทุนฯ มีเป้าหมายสนับสนุนทุนจำแนกได้ 4 หมวด ได้แก่ (1) การสร้างเสริมสุขภาพ (2) การป้องกันโรค (3) การฟื้นฟูสมรรถนะ และ (4) การรักษาพยาบาลระดับปฐมภูมิเชิงรุกในพื้นที่ ในประเด็นนี้ คุณอาทิตย์ วสุรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มภารกิจการจัดหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น สปสช ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนจะอนุญาติให้ขอทุนได้จากสองหมวดคือ การสร้างเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค เนื่องจากอีกสองหมวดที่เหลือหากพิจารณาดูจะพบว่า ต้องการความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ดังนั้นจึงกำหนดเฉพาะหน่วยงาน องค์กร หรือหน่วยบริการสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล รพช. รพจ. รพสต. อนามัย ฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัว และสำนักงานสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งองค์กรหรือหน่วยงานสามารถขอทุนสนับสนุนทั้งสี่หมวด

นอกจากนี้ คุณแมน ได้อธิบายถึงแหล่งที่มาของกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นว่า แหล่งเงินมาจากสองส่วน หนึ่งคือเงินที่ได้รับจัดสรรมาจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และส่วนที่สอง เป็นเงินสมทบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท) โดยงบประมาณของกองทุนในแต่ละพื้นที่ โดยขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร และรายได้ของพื้นที่ กล่าวได้ว่า การเสนอโครงการเพื่อนำเงินจากกองทุนมาใช้เป็นการนำเงินท้องถิ่นมาพัฒนาระบบสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้การส่งเสริมให้หน่วยงาน องค์กร และประชาชนในพื้นที่รับรู้และเห็นความสำคัญ เพื่อนำไปสู่การเสนอโครงการก็เป็นภารกิจสำคัญของ อปท. ด้วยเช่นเดียวกัน

เงื่อนไขและขั้นตอนการเสนอโครงการกับกองทุนท้องถิ่น

เงื่อนไขของกองทุนในการสนับสนุนโครงการได้กำหนดผู้เสนอเป็นลักษณะของหน่วยบริการ สถานบริการ หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานที่ไม่ได้ให้บริการสาธารณสุข องค์กรเอกชน และกลุ่มประชาชนที่รวมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการแสวงหากำไร กล่าวคือทุกภาคส่วนในชุมชนสามารถขอเงินจากกองทุนได้

ขั้นตอนการเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ในภาพรวมสรุปได้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) การเขียนโครงการตามแบบฟอร์มเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม (2) คณะกรรมการกองทุนท้องถิ่นพิจารณาและอนุมัติโครงการ (3)  อปท.การดำเนินเรื่องการจ่ายเงินสำหรับแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ (4) การดำเนินโครงการตามแผนงาน (5) ส่งสรุปรายงานและงบประมาณของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

แผนภูมิที่ 1 ขั้นตอนการสนับสนุนงบประมาณกองทุน อปท. สำหรับหน่วยงานอื่น/องค์กร/ประชาชน
(ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพ)

หลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการของคณะกรรมการ โดยทั่วไปเป็นคำถามเบื้องต้นเพื่อสำรวจว่า โครงการสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนหรือไม่ ผลผลิตและผลลัพธ์ของโครงเป็นประโยชน์และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ โครงการที่เสนอต้องไม่เคยได้ทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนอื่น และโครงการต้องมีแผนงาน การติดตามและประเมินผลเพื่อความโปรงใสและตรวจสอบได้

ระยะเวลาการยื่นเสนอโครงการ โดยทั่วไปอปท.จะประกาศให้ยืนโครงการตามปีงบประมาณ แต่ละพื้นที่อาจต่างกันบ้าง คุณสุคนธ์ ชัยชนะ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ตำบลพะตง ซึ่งเป็นผู้ของบประมาณสนับสนุนการส่งเสริมการวางแผนสุขภาพล่วงหน้า การส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ และการดูแลแบบประคับประคองให้กับกลุ่มอสม. และ Caregivers (Cg) ในพื้นที่ ได้อธิบายว่า เทศบาลตำบลพะตงจะประกาศให้ยื่นเสนอโครงการในช่วงเดือนตุลาคม หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคนที่สนใจจะต้องยื่นเสนอแผน/โครงการ/กิจกรรมให้คณะกรรมการกองทุนฯพิจารณา สำหรับระยะเวลาการดำเนินการคุณถิรนันท์ ถิรสิริสิน ซึ่งมีประสบการณ์ของทุนกองทุนจากสำนักงานเขตประทุมวันเล่าว่า การยื่นโครงการใช้เวลาพิจารณา 3 เดือน หลังจากอนุมัติโครงการจึงเริ่มดำเนินเรื่องการเงินกับเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นจึงเริ่มดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน และสุดท้ายต้องสรุปรายงานโครงการผลผลิต ผลลัพธ์ รวมถึงค่าใช้จ่าย และเอกสารด้านการเงินเพื่อดำเนินการปิดบัญชี

การใช้ประโยชน์จากกองทุนท้องถิ่นขับเคลื่อนทำงานโครงการชุมชนกรุณา

คุณถิรนันท์ ถิรสิริสิน เป็นผู้ขับเคลื่อนชุมชนกรุณาปทุมวัน กรุงเทพฯ ได้แบ่งปันประสบการณ์ว่าการขอเงินจากกองทุนในนามของบุคคลนั้นไม่สามารถทำได้ ทางเจ้าหน้าที่เขตปทุมวันได้แนะนำให้ร่วมกลุ่มกัน 5 คน ดังนั้นโครงการที่ตนเองทำจึงพัฒนาร่วมกับเจ้าหน้าที่สุขภาพของศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 16 สำหรับการเขียนโครงการจะมีแบบฟอร์มให้เลือกเลยว่า วัตถุประสงค์ของโครงการจะตอบวัตถุประสงค์กองทุนในหมวดไหน ซึ่งพบปัญหาว่า การดูแลแบบประคับประคอง และการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย ไม่มีช่องระบุไว้ชัดเจน ดังนั้นโครงการที่ทำจึงเลือกระบุวัตถุประสงค์ในหมวดการส่งเสริมสุขภาพ แล้วเขียนอธิบายโดยระบุให้ชัดว่า การดูแลแบบประคับประคองเป็นการดูแลด้านจิตใจอย่างไร สำหรับคุณสุคนธ์ ชัยชนะ เล่าประสบการณ์การเสนอทุนสนับสนุนโครงการขับเคลื่อนชุมชนกรุณาพะตงในนามของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติตำบลพะตง พบว่าไม่ได้เจอปัญหาเรื่องการเขียนโครงการ ส่วนหนึ่งเนื่องจากหน่วยบริการสุขภาพมีข้อมูลที่ชัดเจน เพื่ออธิบายปัญหาการดูแลแบบประคับประคองในชุมชน ดังนั้นการเขียนหลักการและเหตุผลของโครงการจึงมีข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สามารถโน้มน้าวคณะกรรมการกองทุนได้ ว่าการดูแลแบบประคับประคองและการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าเกี่ยวข้องกับพัฒนาระบบสุขภาพ การดูแลแบบองค์รวมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและสมาชิกชุมชนได้อย่างไร นอกจากนี้ ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจขอทุนสนับสนุนโครงการคือ การศึกษาแผน เงื่อนไข และข้อกำหนดระเบียบการเบิกจ่ายเงินของกองทุนให้ชัดเจน เพื่อจะสามารถเขียนรายละเอียดของโครงการโดยเฉพาะในหมวดงบประมาณได้อย่างถูกต้อง 

          การดูแลแบบประคับประคองและการวางแผนสุขภาพล่วงหน้า (advance care planning: ACP) เป็นประเด็นสำคัญของการขับเคลื่อนชุมชนกรุณาสำหรับยกระดับการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะท้าย คุณดารุณี สุดาอิ้ง หัวหน้าฝ่ายสาธารณสุขของเทศบาลเมืองน้ำดำ จังหวัดกาฬสินธุ์ และเป็นแกนนำสำคัญของการทำงานขับเคลื่อนชุมชนกรุณาการฬสินธุ์ได้สะท้อนในปัญหาเดียวกันว่า งานชุมชนกรุณา เมื่อดูหมวดการเงินแล้วไม่เข้าข่าย เพราะบางกิจกรรมมันดูเหมือนเป็นงานเหมือนการจัดอีเว้นท์ ชุมชนกรุณากาฬสินธุ์จึงแก้ปัญหาโดยใช้งบบำรุงในแผนของเทศบาล พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประธานชุมชนในพื้นที่รับรู้ว่า หากชุมชนไหนต้องการจัดกิจกรรมชุมชนกรุณาให้มาระบุในแผนงานของเทศบาล นอกจากนี้ ปี 2565 และ 2566 เทศบาลกาฬสินธุ์ต้องการจะทำให้กองทุนหลักประกันสุขภาพของเทศบาลเป็น Best Practice จึงได้ประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนรับทราบว่า หากสามารถรวมกลุ่มกัน 5 คน ก็สามารถมาของบสนับสนุนการขับเคลื่อนการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าได้เลย นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องการเขียนโครงการ ก็จะมีทีมงานช่วยกลุ่มผู้สนใจเขียนโครงการ โดยกลุ่มเพียงต้องแจ้งได้ว่า ต้องการทำอะไร จะได้อะไร ตัวอย่างเช่น อยากจะไปเยี่ยมผู้ป่วยระยะท้ายแบบนี้ เพราะอะไร และจะได้ประโยชน์อะไร เพื่อช่วยให้การขับเคลื่อนแนวคิดชุมชนกรุณาสู่ชุมชน และแก้ปัญหาที่มาจากชุมชนในพื้นที่ได้จริง ดังนั้นในปีดังกล่าวการส่งเสริม ACP จึงขยายไปยังกลุ่มต่างๆ จึงมีหลากหลายไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยระยะท้าย ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ และยังรวมไปถึงกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ และกลุ่มนักเรียนในโรงเรียน ที่เป็นสมาชิกสังคม ที่ควรมีความเข้าใจเรื่อง ACP เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ข้อดีจากการขยาย ACP ไปทุกกลุ่มในสังคมคือ ผู้คนเห็นประโยชน์และความสำคัญของ ACP เพิ่มมากขึ้น และกลุ่มเหล่านี้ได้เป็นกระบอกเสียงให้กับการกำหนดทิศทางการใช้งบประมาณ และทิศทางของโครงการสำหรับของบสนับสนุนจากกองทุน

สรุป

กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) เป็นแหล่งทุนสำคัญสำหรับทุกภาคส่วนในสังคมสำหรับนำมาใช้ขับเคลื่อนประเด็นด้านสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าในชุมชน ในปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากกองทุนท้องถิ่นขับเคลื่อนชุมชนกรุณาอาจจะยังประสบปัญหาบ้างในด้านศัพท์เฉพาะ เช่น การดูแลสุขภาพล่วงหน้า การดูแลแบบประคับประคอง ที่ไม่ได้ตรงกับหมวดการสนับทุนของกองทุนโดยตรง ในประเด็นนี้ผู้ยื่นเสนอโครงการในฐานะประชาชนสามารถใช้หมวดการส่งเสริมสุขภาพ พร้อมทั้งระบุนิยามความหมายของการวางแผนดูแลสุขภาพล่วงหน้า และการแบบประคับประคองในหลักการและเหตุผลว่าเกี่ยวข้องและสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาพอย่างองค์รวมด้านกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณอย่างไร รวมถึงเกี่ยวข้องกับการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและสมาชิกชุมชนให้ได้รับการบริการสุขภาพที่ดีขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของชีวิต อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง ประเด็นนี้ยังจำเป็นต้องขับเคลื่อนเชิงนโยบายในอนาคต เพื่อนำคำว่า การดูแลแบบประคับประคอง และการวางแผนสุขภาพล่วงหน้าเข้าไปบรรจุในกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในปัจจุบันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้พัฒนาระบบและหลักสูตรฝึกอบรมการเขียนโครงการพร้อมมอบประกาศนียบัตร เพื่อช่วยให้ผู้สนใจเขียนโครงการได้ถูกต้องและช่วยให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากกองทุนฯได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากอ้างอิงที่แนบมาพร้อมบทความ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1. แนวทางสนับสนุนเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ปี 2565

https://localfund.happynetwork.org/upload/forum/manual_local_health_security_fund_2022.pdf

2. รายการหลักสูตรของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

https://mooc.nhso.go.th/front